กองทุน BCARE : กองทุนในตำนานที่ลงทุนหุ้น Health Care ทั่วโลก
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี กระแสธุรกิจกลุ่ม Health Care ก็ยังคงมีคนพูดถึงอยู่เรื่อยๆ เนื่องจากคนส่วนใหญ่มองว่าธุรกิจกลุ่มนี้เป็น Mega Trend ที่คาดว่าจะเติบโตในระยะยาวได้ ทั้งเทรนด์สังคมผู้สูงอายุ คนรักสุขภาพมากขึ้น และล่าสุดทุกประเทศล้วนประสบกับเชื้อไวรัส-19 ประกอบกับเทคโนโลยีเริ่มมีความก้าวหน้าทันสมัยมากขึ้น ทำให้ได้นำมาประยุกต์ใช้ในด้านการแพทย์ด้วยเช่นกัน ด้วยปัจจัยเหล่านี้จึงส่งผลให้ธุรกิจกลุ่ม Health Care มีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมารู้จักกับกองทุน Health Care กองนึงที่เป็นกองทุนในตำนานของประเทศไทย ถ้าพูดถึงชื่อกองทุนนี้ เกือบทุกคนน่าจะเคยได้ยินชื่อมาบ้าง ก็คือ กองทุน BCARE หรือ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์
.
ตามที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า เป็นกองทุนในตำนาน เพราะเท่าที่ค้นหาข้อมูลมาได้นั้น กองทุนนี้ถือว่าเป็นกองทุนแรกของไทยที่ลงทุนในธุรกิจกลุ่ม Health Care โดยจัดตั้งเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 4,790 ล้านบาท เก่าแก่มากเทียบกับคู่แข่ง !!
กองทุน BCARE เป็นกองทุนแบบ Feeder Fund เน้นลงทุนเฉพาะหมวดอุตสาหกรรม โดยลงทุนในหน่วยลงทุนของ Wellington Global Health Care Equity Fund (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว พูดง่ายๆ ก็คือ เวลาที่เราซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน BCARE ทางผู้จัดการกองทุน จะนำเงินเราไปลงทุนในกองทุนหลัก แล้วกองทุนหลักก็นำเงินไปลงทุนในบริษัท Health Care อีกทีหนึ่ง
ดังนั้น ผลตอบแทนของกองทุน BCARE จะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุนหลักนั่นเอง เป็นการใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนแบบ Passive Management ส่วนกองทุนหลัก หรือกองทุน Wellington Global Health Care Equity Fund จะบริหารกองทุนแบบ Active Management คือจะมุ่งหวังลงทุนในหุ้นกลุมอุตสาหกรรม Health Care เพื่อหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวและให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด
เรามารู้จักกองทุน Wellington Management Global Health Care Equity Fund กันมากขึ้น
กองทุนมีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทในอุตสาหกรรม Health Care ทั่วโลกโดยเน้นลงทุนใน 4 หมวดธุรกิจย่อย ได้แก่
- หมวดเภสัชกรรมทั่วไป (Major Pharmaceuticals)
- หมวดเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) และเภสัชกรรมเฉพาะทาง (Specialty Pharmaceuticals)
- หมวดผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ (Medical Products)
- หมวดบริการด้านสุขภาพ (Health Services)
กองทุน Wellington Management Global Health Care Equity ไปลงทุนหุ้นบริษัทไหนที่น่าสนใจบ้าง
1.UnitedHealth Group (UNH) – สัดส่วนการลงทุน 6.0%
- บริษัทด้าน Health Care ใหญ่อันดับ 2 ของโลก ให้บริการระบบดูแลสุขภาพและประกันภัย
- ผลประกอบการบริษัท UnitedHealth Group ในปี 2020
รายได้ 2.57 แสนล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 6.2% จากปีก่อน
กำไร 1.57 หมื่นล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 10.75% จากปีก่อน - บริษัทเป็น Partner ร่วมกับบุคคลากรทางการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญกว่า 1.3 ล้านคน และโรงพยาบาลกว่า 6,500 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม
-นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมสุขภาพสำหรับชาวสหรัฐอเมริกา ซึ่งโปรแกรมนี้มีความหลายหลาย สามารถเลือกให้เหมาะกับอายุและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้
.
2.Eli Lilly and Co – สัดส่วนการลงทุน 4.1%
- บริษัทผลิตยารายใหญ่ของอเมริกา ดำเนินธุรกิจยาวนานกว่า 140 ปี จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปถึง 125 ประเทศทั่วโลก สิ่งที่สร้างชื่อเสียงที่สุด คือ เป็นผู้ผลิตวัคซีนโปลิโอได้เป็นเจ้าแรก !!
- ผลประกอบการบริษัท Eli Lilly and Co ในปี 2020
รายได้ 2.45 หมื่นล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 9.95% จากปีก่อน
กำไร 6.19 พันล้านเหรียญฯ ลดลง 25.54% จากปีก่อน - ปัจจัยที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจของบริษัท คือ มองหาการค้นพบสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในครั้งถัดไป เพื่อทำให้ชีวิตของคนทั้งโลกดีขึ้น ซึ่งในปัจจุบันบริษัทได้คิดค้นผลิตยาเกือบ 100 ชนิดแล้ว
3.AstraZeneca PLC – สัดส่วนการลงทุน 3.6%
- บริษัทยาและ Biotechnology รายใหญ่ของอังกฤษ ขับเคลื่อนบริษัทด้วยนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์
- ผลประกอบการบริษัท AstraZeneca ในปี 2020
รายได้ 2.66 หมื่นล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 9.16% จากปีก่อน
กำไร 3.9 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 152.98% จากปีก่อน - ปัจจุบันได้ผลิตวัคซีนไวรัสโควิด-19 ร่วมกับ University of Oxford และทางบริษัทพยายามจับมือกับพันธมิตรทั่วโลกเพื่อร่วมผลิตวัคซีนกระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ โดยมีเป้าหมายถึง 3,000 ล้านโดสต่อปี
. - บริษัทเน้นไปที่การคิดค้น พัฒนา และจัดจำหน่ายยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์เท่านั้น
4.Pfizer Inc – สัดส่วนการลงทุน 3.2%
- บริษัทยาของอเมริกา เป็นผู้พัฒนาและผลิตยารักษาโรคและวัคซีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก ดำเนินธุรกิจมายาวนานถึง 172 ปี
- ผลประกอบการบริษัท Pfizer ในปี 2020
รายได้ 4.19 หมื่นล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 1.79% จากปีก่อน
กำไร 9.65 พันล้านเหรียญฯ ลดลง 40.79% จากปีก่อน - ปัจจุบันได้ผลิตวัคซีนไวรัสโควิด-19 ร่วมกับ BioNTech ซึ่งวัคซีนนี้มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสถึง 95% โดยไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง และยังเป็นตัวแรกที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
- ยาที่ค่อนข้างขายดีและคนทั่วไปรู้จัก เช่น Lipitor (ยาลดคอเลสเตอรอลในเลือด), Diflucan (ยาต้านเชื้อรา), Viagra (ยารักษาโรคย้อนสมรรถภาพทางเพศ), Celebrex (ยาบรรเทาปวด), Ponstan (ยาบรรเทาปวด)
5.Boston Scientific – สัดส่วนการลงทุน 3.1%
- ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในการแพทย์เฉพาะทาง เช่น เครื่องมือสำหรับการผ่าตัดหัวใจ การผ่าตัดหลอดเลือด การส่องกล้อง รังสีวิทยา
- ผลประกอบการบริษัท Boston Scientific ในปี 2020
รายได้ 9.91 พันล้านเหรียญฯ ลดลง 7.65% - บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้คนมีอายุยืนยาวและมีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยได้ลงทุนในการวิจัยและพัฒนา (R&D) สูงถึง 1 พันล้านเหรียญฯ และมีตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ครอบคลุม 120 ประเทศทั่วโลก
สิ่งที่ต้องระวังของกองทุน BCARE มีอะไรบ้าง
- ความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัว (High Concentration Risk) ทั้งการกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน และการกระจุกตัวในรายประเทศ โดยกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา
- ความผันผวนของผลการดำเนินงาน (standard deviation) คือ 18.66% ต่อปี
- กองทุนนี้เคยมีผลขาดทุนสูงสุด (maximum drawdown) ) ในช่วงเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา คือ -27.33% และในยามวิกฤตอาจลงได้ลึกกว่านั้น
- ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวมในการพิจารณาว่าจะป้องกันความเสี่ยงหรือไม่ ดังนั้น กองทุนจึงมีความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทกับเงินสกุลต่างประเทศ
สำหรับคนที่สนใจลงทุนในกองทุน BCARE สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมใน Fund Factsheet ได้ที่ https://www.bangkokbank.com/…/Foreign-Investment…/BCARE
หมายเหตุ: การทำโพสนี้ขึ้นมา ไม่ได้เป็นการชักจูงหรือแนะนำให้ซื้อกองทุนนี้ตาม เป็นเพียงแค่เอาเนื้อหาจากเอกสารรายละเอียดการลงทุนมาสรุปย่อและหาข้อมูลของแต่ละบริษัทเพิ่มเติมประกอบการเขียนบทความ
BottomLiner
เพจเรามี Line Openchat ให้ติดตามกันด้วยนะ มาจอยกันได้ที่นี่ (https://line.me/ti/g2/GUZne2IO6dEfbOiwaDbgzw…)