กองทุนใหม่กรุงศรี เกาะกระแส China Megatrend ผ่าน KFCMEGA-A
กองทุนใหม่กรุงศรี เกาะกระแส China Megatrend ผ่าน KFCMEGA-A
หากคิดถึงประเทศยักษ์ใหญ่ที่ใครๆ ก็รู้ว่ามีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวคงหนีไม่พ้น ”จีน” ซึ่งอยู่ในช่วงที่กำลังพัฒนาโดยมีเป้าหมายเพื่อขึ้นมาเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกในอนาคต
จะดีแค่ไหนหากเราสามารถลงทุนใน China Megatrend ทุกอย่างครบจบในกองเดียว ซึ่งกองทุนกรุงศรีกำลังจะ IPO ในวันที่ 7-15 มิถุนายนนี้
KFCMEGA-A เป็นกองทุนที่ลงทุนใน 5 Megatrend ที่กำลังเติบโตในจีนดังนี้
1.Consumption: เติบโตไปพร้อมกับพลังการบริโภคที่เพิ่มขึ้นจากรายได้ของประชากรในจีนที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดตามเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 และอัตราการเติบโตเฉลี่ยกว่า 6-8% ต่อปี นั้นหมายถึงกำลังการจับจ่ายใช้สอยจำนวนมหาศาลที่กำลังจะมา
2.Technology: จีนเป็นประเทศที่มีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเกินกว่า 1,000 ล้านราย (ตลาดขนาดใหญ่) นำมาซึ่งการใช้และเข้าถึงเทคโนโลยีอื่นๆภายในประเทศ
3.Healthcare: คาดการณ์ว่าสังคมผู้สูงอายุของจีนจะทำให้อัตราการป่วยด้วยโรคเรื้อรังเพิ่มขึ้น 40% ในปี 2030 และการใช้จ่ายเพื่อสุขภาพของจีนยังคงต่ำอยู่ที่ 5.2% ของ GDP เทียบกับสหรัฐที่ 17.1% ของ GDP (ตลาดยังโตได้อีกเยอะ)
4.Clean energy: จีนมีการลงทุนเพื่อการปฏิรูปพลังงานมากที่สุดในโลกกว่า 1.35 แสนล้านดอลลาร์และยังเป็นผู้นำในด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนซึ่งผลิตได้มากกว่า 800 Gigawatts ในปี 2019 แต่กำลังการผลิตต่อจำนวนประชากรยังอยู่เพียงแค่ 0.3% เท่านั้นเอง เหลือสัดส่วนให้ขยายอีกมาก
5.New transportation: จีนเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและคาดว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 51% และยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าจะมีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของยอดขายรถในปี 2025 ซึ่งไฮไลท์ที่จะดันอุตสาหกรรม EV ในจีนคือรัฐบาลหวังให้ผู้ผลิตในประเทศก้าวขึ้นมาแข่งกับญี่ปุ่น, สหรัฐ, ยุโรป สำเร็จ จึงพร้อมสนับสนุนเต็มที่
กอง KFCMEGA-A นี้ลงครบจบทุก Theme ผ่าน 4 ETF ซึ่งให้สัดส่วนแต่ละ ETF ดังนี้
1.Global X MSCI China Consumer Discretionary ETF (50%): เน้นการลงทุนในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยของจีน
2.Invesco China Technology ETF (20%):เน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีของจีน ซึ่งกระจาย อยู่ทั่วโลก
3.KraneShares MSCI China Clean Technology Index ETF (20%):ลงทุนในเทคโนโลยีสะอาด
4.KraneShares MSCI All China Health Care Index ETF (10%): ลงทุนในบริษัทของจีนที่เกี่ยวข้องกับ อุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพ
ทีนี้เรามาดูตัวอย่างหุ้นที่กองทุนถือเยอะบ้าง (ข้อมูล ณ วันที่ 3 มิถุนายน 2564)
1.Meituan
ผู้นำธุรกิจ food delivery และบริการจองโรงแรมและการท่องเที่ยวในจีนที่ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากทั้งการเจาะตลาดในเมืองรองและการฟื้นตัวของธุระกิจท่องเที่ยว โดยคาดการณ์ EPS มีแนวโน้มเติบโตกว่า 87% CAGR ในอีก 5 ปีข้างหน้า
2.NIO
บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับ Premium ที่ใช้กลยุทย์การสลับเปลี่ยน Battery แทนการชาร์ตไฟฟ้า โดยรายได้ใน Q1,2021 เติบโตกว่า 482% YoY จากการส่งมอบรถที่เพิ่มขึ้น 112% เทียบจากปี 2019 และเริ่มขยายตลาดจากในประเทศไปสู่ตลาดยุโรป นอกจากนี้คาดการณ์รายได้มีแนวโน้มเติบโตมากถึง 50% CAGR ในอีก 5 ปีข้างหน้า
3.JD
E-commerce B2C อันดับสองของจีนที่ให้ความสำคัญกับระบบ Logistics ในการขนส่งสินค้าไปถึงมือผู้บริโภคให้ได้รวดเร็ว ทันใจ และไว้วางใจได้ จนได้รับการขนานนามว่า Amazon แห่งจีน มีรายได้โตกว่า 39% ใน Q1,2021 และโตเฉลี่ยกว่า 33% CAGR ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
4.Pinduoduo
ธุรกิจ Social E-Commerce ที่โดดเด่นเหนือคู่แข่ง คือ กลยุทธ์ “Group Buying” โดยเน้นเจาะกลุ่มตลาดเมืองรองที่มีจำนวนผู้ใช้งานรายเดือนเติบโตมากถึง 48 เท่า ภายในเวลา 4 ปีและคาดการณ์รายได้มีแนวโน้มเติบโต 42% CAGR ในอีก 5 ปีข้างหน้า
5.Alibaba
E-commerce ยักษ์ใหญ่จากค่ายจีนที่เชื่อว่าทุกคนนั้นรู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งล่าสุดเพิ่งโดนรัฐบาลจีนเล่นงานปรับไปกว่า 2.78 พันล้านดอลลาร์ โทษฐานมีอำนาจเหนือตลาดและผูกขาดธุรกิจ จนเรียกได้ว่าเป็นค่าปรับของบริษัทที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์จีน แต่ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับรายได้ปีล่าสุดที่ 1.095 แสนล้านดอลลาร์โต 52.11% YoY
กอง KFCMEGA-A ถือว่าเป็นกองจีนที่น่าสนใจกองหนึ่ง ที่เหมาะกับผู้ที่สนใจลงทุนใน Megatrend หลักๆ ของจีนซึ่งมีศักยภาพเติบโตอีกมากในระยะยาวครบจบในกองเดียว และมูลค่าตลาดที่ปรับลดลงมาอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาทำให้มูลค่าพื้นฐานมีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับการลงทุนระยะยาวในจีน
จะเห็นได้ว่ากองนี้นั้นค่อนข้างเน้นกระจายการลงทุนซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของผลตอบแทนได้ แต่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว
BottomLiner
รู้จักกองทุนหุ้นจีนอื่นๆเพิ่มขึ้น ลงทุนอย่างมั่นใจกับ Exclusive Content ของ BottomLiner สนใจอ่านรายละเอียดที่ : https://forms.gle/DBhATCRfWprbcNuu7