เกาะกระแส E-Commerce ทั่วโลก เติบโตไปกับกองทุน ONE-GECOM
กระแส E-Commerce ก็เป็นอีก Megatrend ที่กำลังเติบโตอย่างโดดเด่นท่ามกลางยุค New Normal โดยคนเริ่มหันมาทำกิจกรรมในโลกออนไลน์มากขึ้น เช่น ดูหนัง พูดคุยสื่อสาร ซื้อสินค้า เพราะในโลกออนไลน์ให้ความสะดวกสบาย และใช้ต้นทุนที่ต่ำกว่า
การเกิดขึ้นของโรคระบาด Covid-19 และการ Lockdown ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ยิ่งเป็นตัวเร่งที่ทำให้บริษัทในธุรกิจ E-Commerce โตแบบก้าวกระโดด
วันนี้เราเลยจะมาแนะนำกองทุนหนึ่ง เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนด้าน E-commerce โดยเฉพาะ และค่อนข้างประสบความสำเร็จในการบริหารกองทุนในช่วงที่ผ่านมา ก็คือ กองทุน ONE-GECOM จากบลจ. วรรณ
ONE-GECOM เป็นกองทุนแบบ Fund of funds เน้นลงทุนหุ้นทั่วโลกที่มีรายได้หรือได้รับประโยชน์จากธุรกิจ E-commerce ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น บริษัทขายสินค้าทางออนไลน์, บริษัทขนส่ง, บริษัทคลังสินค้าที่ให้บริการขนส่งหรือจัดเก็บสินค้าที่สั่งซื้อขายผ่านทางออนไลน์เป็นหลัก, บริษัทเกี่ยวกับระบบชำระค่าบริการผ่านทางออนไลน์ เป็นต้น
สัดส่วนหลักกองทุนนี้ลงทุนประมาณ 74% ใน Amplify Online Retail ETF ซึ่งตรงกับธีมของ ONE-GECOM ที่เล่าไปด้านบน เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับ EQM Online Retail Index และอีก 26% มีการลงทุนในหุ้นรายตัวเพิ่มเติม โดยบริหารกองทุนแบบ Active Management และมีอัตราส่วนหมุนเวียนการลงทุนของกองทุนรวม หรือ Portfolio Turnover ratio สูงถึง 3.64 หรือ 364% (ตัวเลขนี้บอกอะไรอ่านต่อได้ที่ลิ้งด้านล่าง)
เรามาทำความรู้จักกับหุ้นที่น่าสนใจใน Amplify Online Retail ETF กัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2564)
Qurate Retail Inc. – สัดส่วนการลงทุน 3.62%
ผู้นำระดับโลกด้าน Video Commerce ผ่านช่องทาง Media Online และ Offline Shop และเป็นผู้นำด้าน E-commerce บนมือถือและ Social Commerce ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสามารถเข้าถึงผู้คนได้ถึง 380 ล้านหลังคาเรือนทั่วโลกผ่านเครือข่ายโทรทัศน์ 15 เครือข่าย และเข้าถึงคนในออนไลน์กว่า 2.4 พันล้านคน
นอกจากนี้ยังดำเนินธุรกิจเป็นร้านค้าปลีกออนไลน์ขายสินค้าประเภท Lifestyle อุปกรณ์ใช้ในบ้าน เสื้อผ้า เครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ความงาม
Groupon Inc. – สัดส่วนการลงทุน 3.49%
ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าและบริการบนโลกออนไลน์ เชื่อมโยงระหว่างผู้บริโภคและร้านค้าท้องถิ่นใน 15 ประเทศ ทั้งอเมริกาเหนือ ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป เอเชีย และอเมริกาใต้ โดยมีสินค้าและบริการทั้งในหลายประเทศ รวมถึงแพคเกจท่องเที่ยว ร้านอาหาร และกิจกรรมต่างๆ
Stitch Fix Inc. – สัดส่วนการลงทุน 3.34%
ผู้ให้บริการเสริมสวยออนไลน์ ให้คำแนะนำการจัดแต่งทรงผมและการแต่งตัวเป็นรายบุคคล โดยใช้ระบบอัลกอริทึมเข้ามาช่วยวิเคราะห์และช่วยเลือกชุดเสื้อผ้า ขนาด สไตล์ ให้เหมาะสมกับผู้ใช้บริการมากที่สุด ตามปัจจัยด้านงบประมาณหรือสไตล์ของคนนั้น เพื่อช่วยให้เราประหยัดเวลา ได้ลุคที่ดูดี และยังมีสไตล์เป็นของตัวเองอีกด้วย
Lyft Inc. – สัดส่วนการลงทุน 3.31%
ผู้ให้บริการเรียกรถแบบครบวงจรผ่านช่องทางออนไลน์ เน้นให้บริการแบบ Ridesharing และให้บริการอีกหลากหลายรูปแบบ เช่น เช่ารถยนต์ แชร์จักรยานและสกูตเตอร์ การจัดส่งอาหาร เป็นต้น โดยปัจจุบันให้บริการทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและหัวเมืองใหญ่ของประเทศแคนาดา รวมกว่า 600 เมือง เรียกได้ว่าเป็นน้องๆ UBER เลย
Tripadvisor Inc. – สัดส่วนการลงทุน 2.87%
ผู้นำด้านแพลตฟอร์มการท่องเที่ยว ให้บริการค้นหาข้อมูล จอง และเปรียบเทียบ ทั้งร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม เที่ยวบิน เรือสำราญ และกิจกรรมต่างๆ เรียกได้ว่าครบทุกฟังก์ชั่นเพื่อคนชอบท่องเที่ยว ในปัจจุบัน Tripadvisor ให้บริการใน 49 ประเทศ และมากถึง 28 ภาษา
สิ่งที่ต้องระวังของกองทุน ONE-GECOM มีอะไรบ้าง
- ความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกในประเทศใดประเทศหนึ่ง (High Country Concentration Risk) โดยกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา
- ความผันผวนของผลการดำเนินงาน (Standard Deviation) คือ 31.18% ต่อปี
- กองทุนนี้เคยมีผลขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) นับตั้งแต่วันจัดตั้งกองทุน คือ -30.95% และในยามวิกฤตอาจลงได้ลึกกว่านั้น
- กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยง (Hedging) จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ณ ขณะใดขณะหนึ่ง ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนในต่างประเทศ
BottomLiner
รู้จัก Portfolio Turnover ratio (PTR) ผู้จัดการกองทุนนี้ปรับพอร์ตบ่อยแค่ไหน
https://www.facebook.com/bottomlinerglobal/posts/4579693172045781
รู้หรือยังว่ามีคอร์สใหม่จาก BottomLiner บน skillane แล้วนะ เน้นเจาะลึก megatrend AI หลักที่สำคัญในการลงทุนไปอีก 5-10 ปีข้างหน้าเลยทีเดียว สนใจเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ : https://www.skilllane.com/courses/AI_Chip_BottomLiner