TCLOUD ลงทุน Theme Cloud Computing อย่างครบวงจร!!!
ในบทความก่อน เราได้พูดถึงกอง Principal GCLOUD-A กันไปแล้ว ในบทความนี้เราจะมาโฟกัสกองคู่แข่งอีกกองที่น่าจับตามองอย่าง TCLOUD ของบลจ. Tisco กัน
กองทุน TCLOUD ลงทุนในหุ้น Cloud Computing อย่างครบวงจรทั้งธุรกิจ Platform และโครงสร้างพื้นฐานเช่น Data Center
TCLOUD เป็นกอง Feeder Fund ที่ลงในกองทุนหลัก Global X Cloud Computing ETF ซึ่งเป็น Passive Fund เช่นกันแต่อ้างอิงกับดัชนี Indxx Global Cloud Computing โดยเน้นลงในบริษัทที่ให้บริการ Cloud Computing (SaaS, PaaS, IaaS) เช่นเดิม ที่เพิ่มเติมคือการลงทุนใน REITs อย่าง Data Center รวมถึง Cloud and Edge Computing Infrastructure เข้ามา เรียกได้ว่าเป็นกองทุนที่ลงทุนครบวงจรในธุรกิจ Cloud Computing ก็ว่าได้ ตั้งแต่ต้นน้ำ จนปลายน้ำ
หลายคนอาจงงว่า เฮ้ย cloud computing มันมีต้นน้ำจนปลายน้ำด้วยเหรอ คำตอบคือมีครับ ลองศึกษาดูหรือจะมาดูที่คอร์ส Basic Tech ก็ได้
กอง TCLOUD นั้นจะเน้นถือหุ้น Top 30 Cloud Company และจะถือ REITs ได้ไม่เกิน 5 ตัว โดยหุ้นที่อยู่กองนั้นจะต้องมีรายได้จากธุรกิจ Cloud อย่างน้อย 50% ของรายได้บริษัท (Pure Play) “หรือ” มีรายได้จาก Public Cloud Infrastructure เกิน 500 ล้านดอลลาร์ข้ึนไป
ทำให้กอง TCLOUD นั้นมีผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Amazon, Alphabet, Microsoft และ Alibaba อยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม กองทุนแบ่งสัดส่วนการลงทุนโดยยึดหลักสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Cloud Computing ของบริษัท ซึ่งจะเรียงการให้น้ำหนักการลงทุนจากมากไปน้อยตามลำดับ ดังนั้นเราจะพบว่า หน้าหุ้น Top 5 กลับไม่ใช่ Big Tech อย่างที่กังวลกัน
เรามาอัพเดตหุ้น Top Holdings ในพอร์ตของกองกันดูว่ามีอะไรบ้าง (ณ วันที่ 11 พฤษภาคม 2564)
1.PROOFPOINT INC (6.88%)
ผู้นำทางด้านการให้บริการ Email Security & Protection และ Security Awareness Training ชื่อดังของโลก ซึ่งให้บริการ solution รักษาความปลอดภัยระบบ Email ในองค์กร เพื่อป้องกันผู้ใช้งานอีเมล ได้รับผลกระทบจากภัยที่มาจากอีเมล เช่น Spam , Phishing mail เป็นต้น โดยมีรายได้ที่ค่อนข้างมั่นคง
เติบโตเฉลี่ยปีละ 33% CAGR จากลูกค้ากว่า 8000+ องค์กรยักษ์ใหญ่ทั่วโลก
2.DROPBOX INC-CLASS A (5.04%)
Platform บริหารจัดการไฟล์ที่คนไทยหลายๆ คนรู้จักหรือกำลังใช้งานอยู่ ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานในปัจจุบันกว่า 700 บัญชีทั่วโลก แต่ปัญหาคือมีจำนวนบัญชีที่ยอมอัพเกรดเป็น Premium และจ่ายตัง เพียง 15.5 ล้านบัญชี ทำให้การเติบโตนั้นค่อนข้างจำกัด รวมถึงคู่แข็งในตลาดมากมายอย่าง Google drive, One Drive หรือ Box อย่างไรก็ดี ARR, Paying User และ ARPU ก็ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง
3.XERO LTD (4.94%)
ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์จัดทำบัญชีออนไลน์และชุดเครื่องมือฝึกปฏิบัติที่ทำให้ชีวิตของธุรกิจขนาดเล็ก นักบัญชี และคนทำบัญชีง่ายขึ้นเมื่อต้องจัดการกับการเงินของธุรกิจ เป็นโปรแกรมบัญชีสำหรับธุรกิจ SME ยุคใหม่ เชื่อมต่อได้ง่ายกับโปรแกรมต่างๆ รองรับการจ่ายเงินผ่านOmise, Paypal ใช้งานง่าย โดยคาดว่า EBITDA ในปี 2021 จะโตกว่า 86% และมี Gross Margin สูงถึง 85.7%
4.ZSCALER INC (4.40%)
ผู้นำด้านการให้บริการ Web Security และผู้ให้บริการ Cloud ระดับโลกที่มี Data Center กว่า 150 แห่งทั่วโลกซึ่งเป็น Competitive Advantage ทำให้องค์กรชั้นนำเลือกใช้บริการ มีรายได้เติบโตเฉลี่ยกว่าปีละ 50% CAGR และมี Net Retention Rate สูงถึง 127%
5.AKAMAI TECHNOLOGIES INC (4.32%)
บริษัท CDN (Content Delivery Network) รายใหญ่ของโลก ซึ่งเป็น Platform Cloud ระดับชั้นนำที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถนำเสนอประสบการณ์ที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงได้บนทุกๆ อุปกรณ์และทุกที่ แก่ผู้ใช้บริการ มีรายได้โตเฉลี่ยปีละ 33% ทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นราว 160% หลังจากปี 2018 อย่างไรก็ตามในตลาดนั้นมีคู่แข่งอยู่ค่อนข้างเยอะเช่นที่เรารู้จักกันอย่าง Cloudflare และ Fastly เพียงแต่จับกันคนละกลุ่มลูกค้า
อย่างที่ทราบกันดีว่า Theme Cloud Computing นั้นยังมีอนาคตอีกไกลในระยะยาว
และในปีนี้ จะพบว่าฐานเก่าปีที่แล้วเติบโตสูงพอตัว หากเราดูจากบริษัทใน Top 5 จะเห็นว่าเป็นผู้ให้บริการที่ได้ประโยชน์จาก Digital Transformation ในยุค Covid และยังเป็นหุ้นขนาดกลาง ที่ได้ปรับขึ้นมามากไปในปีก่อน ปัจจุบันโดนเทถล่มขาย ซ้ำเติมด้วยปัจจัยภาพ Macro วิกฤต หรือโอกาส อยู่ที่ความเสี่ยงที่รับได้และระยะเวลาที่ถือครอง
รายละเอียด Fund Fact Sheet:
https://www.tisco.co.th/…/factsheet/ffs_tcloud_th_v1.pdf
หลายกองทุนในปีนี้ผลตอบแทนอาจไม่เป็นอย่างที่หวัง รู้จักกองทุนยอดนิยมให้มากขึ้นได้ที่ Exclusive Content ในกลุ่มปิดของ BottomLiner เลือกกองทุนที่เหมาะกับเราเพื่อการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ สนใจรายละเอียด : https://forms.gle/DBhATCRfWprbcNuu7