TSMC พลังเอเชียล้มยักษ์ Intel
TSMC บริษัทที่เคยอยู่หลังฉากมานานแต่ตอนนี้กำลังถูกแสง spotlight ฉายเข้ามาเรื่อยๆ เหตุการณ์สำคัญในปีที่ผ่านมาเด่นสุดหนีไม่พ้นประเด็นที่ Intel ประกาศยอมแพ้และจะ outsource การผลิตชิปรุ่นใหม่ ซึ่งหนึ่งในผู้โชคดีก็คือ TSMC นี่เอง หุ้นวิ่ง +84% ภายใน 6 เดือน (อีกผู้โชคดีคือ Samsung)
ล่าสุดประกาศงบไตรมาส 4 รายได้และกำไรก็ออกมาดีตามคาด แถมชิปรุ่นใหม่ 5 nanometer ก็ขึ้นมาเป็นสัดส่วนรายได้หลักให้บริษัทแล้ว (ปัจจุบันมีเพียง TSMC และ Samsung เท่านั้นที่ผลิตได้ ขณะที่จีนต้องรออีกซักพักเลย เพราะ SMIC ผู้ผลิตเบอร์ 1 ถูกแบนไปแล้ว)
แม้บริษัทจะเลี่ยงตอบเรื่อง Intel จะ outsource มาให้ แต่ก็บอกใบ้ด้วยการเพิ่มงบลงทุนสร้างโรงงานและซื้อเครื่องจักรใหม่ขึ้นมาถึงประมาณ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ (ปกติอยู่ที่ 1 หมื่นล้านเท่านั้น)
ปัจจุบันบริษัทก็มีกำลังการผลิตแน่นสุดๆ เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วกว่าคาด โดยเฉพาะชิปที่ใช้ในรถยนต์ที่ขาดตลาดไปเลย ส่งผลให้ Ford และ Nissan ต้องลดกำลังการผลิตในบางโรงงาน (แม้จะพยายามวนไปให้คู่แข่งของ TSMC ผลิตให้ก็ยังไม่พอใช้อยู่ดี)
TSMC จดทะเบียนอยู่ในสหรัฐและไต้หวัน รหัสคือ NYSE: TSM, TPE: 2330 โดยก่อนหน้าที่ Intel จะประกาศยอมแพ้ P/E อยู่แค่ 22 เท่าเอง (ผู้นำเทคโนโลยีการผลิตชิปนะเนี้ย) ซึ่งเหตุผลที่คนส่วนใหญ่มักมองคือมันเป็นหุ้นโรงงานเลยได้รับ premium น้อย
แต่หลังจาก Intel ยอมแพ้ P/E ก็พุ่งขึ้นมาที่ 30 ถูกหรือแพงไปสำหรับบริษัทผูกขาดกลายๆแบบนี้ ลองพิจารณากันดูนะครับ
ด้วยความที่ TSMC ครองส่วนแบ่งการตลาดโรงงานผลิตชิปประมาณ 40% (แต่ชิปล้ำๆ จะครองถึง 70%) มันจึงเป็นผู้สั่งซื้อรายใหญ่ของ supplier ในกลุ่ม semiconductor ขณะเดียวกัน TSMC ก็เป็นผู้ผลิตชิปหลักให้แบรนด์มือถือ, ชิปคอมพิวเตอร์ตัวดังๆ ทั่วโลก ดังนั้นข้อมูลการผลิตและงบการเงินของ TSMC สามารถนำมาคาดการณ์เทรนด์เทคโนโลยีและเศรษฐกิจโลกได้เลย (ส่วนนี้ขอปิดไว้ใช้ภายในนะครับว่ามีอะไรบ้าง เพราะเราทำให้ลูกค้าอยู่)
กองทุนในไทยที่ถือหุ้น TSMC เยอะๆ ก็มีตัวอย่างเช่น M-EM (ถือ 9%), B-ASIA (ถือ 7%), ASP-ASIAN (ถือ 7%) แต่ต้องไปพิจารณาหุ้นอื่นในพอร์ทกันด้วย
แถมส่งท้าย: กลุ่มชิปที่ใช้ใน Data Center จะโตแรงที่สุดใน 5 ปีต่อจากนี้ ซึ่งก็เป็นโอกาสของ Samsung ด้วย เนื่องจากช่วง 10 ปีที่ผ่านมากลุ่มที่โตเยอะคือชิปในมือถือที่ Apple, Qualcomm, MediaTek มักเลี่ยงใช้ Samsung ผลิต เนื่องจากกลัวโดนลอกเทคโนโลยี แต่ราคาหุ้นคงไม่วิ่งแรงเท่าไหร่เพราะรายได้ส่วนใหญ่ของ Samsung ยังมาจากธุรกิจขายมือถือที่ไม่ค่อยโตแล้ว
เหมือนเดิมนะครับ บทความเราไม่มีเจตนาแนะนำซื้อขายใดๆ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนการลงทุนครับ