ปี 2021 ปีแห่ง Edge Computing และการนำ AI ไปใช้งาน
Edge Computing สำคัญถึงขนาดว่า “รถยนต์ไร้คนขับหรือ Smart Factory จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าระบบนี้ไม่พร้อม”
ผ่านไปแล้วหนึ่งเดือนของปี 2021 วันนี้ทางเพจมีบทความเกี่ยวกับทิศทางอนาคตของ Edge Computing ของปี 2021 จากงานวิจัยของ Forrester ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจขนาดยักษ์ใหญ่มาอัพเดทให้ฟังกันครับ
Forrester คาดว่าปี 2021 จะเป็นปีที่ Edge Computing จะออกมาให้ผู้บริโภคใช้กันอย่างแพร่หลายหลังจากอยู่ในช่วงพัฒนากันมาอย่างยาวนาน ซึ่งได้ประโยชน์จากแรงขับเคลื่อนในภาค AI และ 5G เป็นหลัก โดยสรุปสั้นๆได้ดังนี้
- AI จะเริ่มบอกลา Data center แล้วมุ่งหน้าไปอยู่ใน Edge Computing
จากที่ดั้งเดิมการจะฝึกฝน AI ให้ฉลาด ด้วย Machine Learning (ML) ต้องมารับข้อมูลมาฝึกใน Data center ก็จะมีการฝึกฝนได้ที่ Edge เลย ช่วยให้เกิดความรวดเร็วในการทำรอบฝึกฝนมากขึ้นไปอีก
ตรงนี้ แอด ขออธิบายต่อ คือ มันแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนทำให้ AI เรียนรู้ ที่เรียกว่า Training กับการนำ AI ไปใช้งาน เรียกว่า Inferencing ซึ่งการนำไปใช้งาน เราจำเป็นจะต้องนำ ข้อมูล ใส่เข้าไปใน Algorithm ที่ได้จากการเรียนรู้ หรือเข้าใจแบบง่ายๆและผิดๆนิดนึงคือ แทนค่าสมการ
Process การนำไปใช้งาน แทนที่จะต้องรอ Data Center ตอบ เราก็ไปทำที่ปลายทางเลยครับ รวมถึงการเรียนรู้ ที่เรียกว่า แค่เรียนรู้เพิ่มเติม ก็มาทำต่อตรงนี้ได้
ซึ่งการจะทำแบบนี้ได้เพราะได้ชิพใหม่ทั้งจาก Intel และ Nvidia แถมยังได้เทคนิคการทำ ML แบบใหม่อย่าง reinforcement learning และ federated learning ส่งผลให้ตัว Edge Application Intelligence จะแพร่หลายได้ง่ายมากขึ้น แล้วเป็นอีกปัจจัยที่จะเร่งการเกิด Digital transformation ได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะส่วนอุตสาหกรรมที่ต้องมีการเชื่อมกันระหว่างโลกจริงและโลกเสมือนแบบ real time - Data Center ที่เดิมเน้น CDN และ Edge Hosting จะแปลงสภาพตัวเองไปเป็น One-stop Marketplace
บริษัทอย่าง Akamai และ Fastly ที่ปัจจุบันธุรกิจหลักเป็น Content Delivery Networks (CDNs) จะเริ่มหาโอกาสในตลาด Edge computing ซึ่งส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ต้องหาพันธมิตรที่เป็น Data center เพื่อที่จะสามารถฝาก Application ได้ในจุดที่ใกล้กับผู้ใช้ให้ได้มากที่สุด เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นบริษัท CDNs ขนาดใหญ่ แต่ก็ยังมีบางจุดที่ไม่สามารถให้บริการ Edge computing ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ซึ่งตรงจุดนี้ Forrester ทำนายว่า Colocation marketplace อย่าง Edgevana และ Inflect จะเป็นตัวเลือกหลักสำหรับบริษัท CDNs ในการเติมเต็มการให้บริการตัวเองสำหรับตอบสนองการใช้งาน Edge Computing ในส่วนขององค์กรขนาดใหญ่ - Kubernetes จะกินส่วนแบ่งกว่า 20% แต่จะยังไม่ใช่ผู้ชนะอย่างถาวรในสงคราม
เนื่องจากผู้ตามอย่าง Canonical, Huawei, OpenStack, Rancher และอีกหลายบริษัท ก็พยายามรีดประสิทธิภาพ Edge-optimized platform ของตัวเองอยู่เสมอ เราจะเห็นสงครามนี้ดุเดือดมากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน - จะเริ่มมีการสร้างและใช้เครือข่าย 5G แบบส่วนบุคคล
เพราะการใช้เครือข่าย 5G แบบสาธารณะนั้น ไม่สามารถที่จะรองรับความต้องการในการใช้ Edge Computing ได้ ส่วนเครือข่าย 5G แบบส่วนบุคคลนี้จะถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทผู้ที่จะใช้เอง แต่คงต้องได้รับความช่วยเหลือในพัฒนาโดยบริษัทสร้างโครงข่ายอย่าง Ericsson, Nokia และ Huawei
(พูดง่ายๆ คือการนำระบบ 5G มาใช้งานสำหรับแค่โรงงานของเรา 1 โรงเท่านั้น exclusive สุดๆ เพื่อให้ได้สัญญานคุณภาพสูง)
ซึ่งปีนี้เราควรจะได้เห็นการนำไปใช้จริงในพื้นที่ Automation ในโรงงานอุตสาหกรรม, กระบวนการคัดแยกจำแนกโดยการใช้ AR/VR และ ตัวกล้องรักษาความปลอดภัย เป็นต้น - ตลาดของ Cloud จะเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตรงข้ามกับการลงทุนใน Edge ที่จะเติบโตไวกว่า
ตลาด Cloud แบบดั้งเดิมที่เคยเติบโตได้มากกว่า 42% ในปี 2018 แต่การเติบโตนั้นจะลดลงเหลือประมาณ 24% ในปี 2022 ส่วนที่จะเติบโตทดแทนคือ Edge Computing แปลความได้ว่าเราจะเห็นการเติบโตจากบริษัทที่เน้นไปพัฒนา ระบบ Cloud solution สำหรับ Edge Computing และ CDNs กลับกันกับส่วนบริษัทที่เน้นการทำ Data center แบบเข้าสู่ศูนย์กลางแบบดั้งเดิมจะเติบโตได้ช้ากว่า
นั่นคือสิ่งที่ Forrester คาดการณ์ไว้ว่าจะได้เห็นในปี 2021 แต่ถ้าผู้อ่านท่านไหนอยากลองเป็นนักพยากรณ์ก็สามารถมาแชร์คำทำนายของตัวเองกันมาได้ในคอมเมนท์เลยครับ แต่ไม่ใช่ให้คุ้กกี้ทำนายกันแบบ BNK48 นะครับ 555
Bottomliner
เพจเรามี short cut เจาะลึก คอร์ส expert 5G, IoT, Edge Computing ที่จะอธบายให้ขาดไปเลยว่าทำไมเทคโนโลยีนี้ถึงสำคัญ ลองดูรายละเอียดได้ที่ลิ้งครับ https://bottomliner.co/expert-online-5g/