Biden ป๋าดัน EV
ข่าวล่ามาแรงอีกแล้ว ล่าสุดปธน
Biden ไฟแรงของเรา ประกาศว่าจะลดสัดส่วนรถยนต์ของภาครัฐที่ใช้น้ำมัน แล้วเปลี่ยนไปใช้รถที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ หรือรถพลังงานไฟฟ้า (EV) แทนทั้งหมด ! และ รถ EV นั้นต้องผลิตในสหรัฐอเมริกาตามนโยบาย Buy America !!!
เบื้องต้นรถที่เป็นส่วนของภาครัฐมีจำนวนกว่า 650,000 คัน ประกอบด้วย รถที่ใช้เกี่ยวข้องกับงานตำรวจ 245,000 คัน, รถทหารอีก 173,000 คัน, อีก 225,000 เป็นส่วนของงานไปรษณีย์ และจำนวนรถทั้งหมดที่กล่าวมามีการใช้งานรวมกันร่วมกว่า 700 ล้านกิโลเมตรแล้ว (เก่าพอสมควร) คงเป็นเหตุผลนึงในการออกนโยบายนี้ เพราะรัฐบาลจะกลายมาเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของภาคการผลิตรถยนต์เลย เป็นตัวอย่างให้ประชาชนดูก่อน
มากกว่านั้น Biden ยังสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปซื้อรถ EV ได้ถูกลงโดยการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีลดราคาลงประมาณ 7,500 ดอลลาร์ต่อคัน (2.2 แสนบาท) แก่ผู้ที่จะเปลี่ยนรถจากที่ใช้น้ำมัน ไปใช้รถ EV !! (กระตุ้นยิ่งกว่านโยบายรถคันแรกของไทยอีก)
จากนโยบายนี้ผู้ได้รับประโยชน์เบื้องต้นไปเต็มๆ คงหนีไม่พ้น ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีโรงงานอยู่ในสหรัฐอยู่แล้ว อย่าง Tesla (NASDAQ: TSLA), GM (NYSE: GM), Ford (NYSE: F) และ Nissan (TYO: 7201) ในขณะเดียวกัน Biden ก็จะได้คะแนนเสียงจากการจ้างงานใหม่ซึ่งคาดการณ์ไว้กว่า 1 ล้านตำแหน่ง จากยอดขายรถยนต์ที่จะเร่งตัวในช่วง 2-3 ปีนี้ และที่สำคัญแรงงานกลุ่มนี้เป็นฐานเสียงเก่าของ Trump และพรรค Republican เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวกันไปเลย
แต่ ! มันยังไม่จบแค่นั้นเมื่อมีรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ก็ต้องมีสถานีชาร์จไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก คาดไว้ว่า 550,000 สถานี ซึ่งจะต้องมีการลงทุนตรงจุดนี้อีกหลายหมื่นล้านบาทส่วนกลุ่มเชื้อเพลงทางเลือกอื่นๆ อย่าง Plug Power และ Clean Energy Fuels ก็อาจจะได้รับอานิสงค์ตรงนี้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การจะเปลี่ยนรถทั้งหมดนั้นจำเป็นต้องใช้งบรัฐราว 600,000 ล้านบาท นับว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง ซึ่งคงต้องใช้เวลาพอสมควร ดังนั้นนักลงทุนทุกคนก็ต้องระมัดระวังอย่าตื่นเต้นกลัวตกรถมากไปจนมองข้ามความเสี่ยงกันนะครับ
ช่วง 100 วันหลังรับตำแหน่ง เราคงจะเห็นความเปลี่ยนนโยบายต่างๆ ทางด้าน Clean Energy ของ Biden ออกมาเรื่อยๆ หากใครสนใจ Theme การลงทุนนี้ก็สามารถลงทุนง่ายๆผ่านกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ เช่น MRENEW, WE-GSECURE, K-CHANGE-A(A) หรือ UESG อย่าลืมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนทุกครั้งด้วยนะครับ
หากใครมีพอร์ทหุ้นต่างประเทศแล้วก็สามารถ เลือก Clean Energy ETF หรือจะไปลงทุนในหุ้นรายตัวก็ได้ ขออย่างเดียวช่วยติดตามเพจนี้เรื่อยๆ นะ