เงินเฟ้อสหรัฐคิดยังไง ?!
ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ (CPI) เดือนพฤษภาคมประกาศออกมาที่ +5% YoY แม้จะสูงกว่านักวิเคราะห์คาดเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่ได้พุ่งแรงตามที่กลัวกัน เพราะช่วงเดือนที่ผ่านมาเกิดกระแสข่าวเงินจะเฟ้อขั้นรุนแรงแบบคุมไม่ได้ เพราะรัฐบาลสหรัฐและ Fed รวมหัวกันพิมพ์เงินสนุกสนาน แต่ความจริงในตอนนี้ก็เป็นอย่างที่ตัวเลขประกาศ
“Fed ยืนยันคำเดิมเงินเฟ้อที่เพิ่มมานั้นจะเป็นเรื่องชั่วคราวเท่านั้น”
โพสนี้เราจะขอเล่าถึงที่มาของตัวเลขเงินเฟ้อว่าคิดยังไง เพื่อให้เข้าใจส่วนประกอบมากขึ้น
เงินเฟ้อจะนำราคาสินค้าและบริการที่คนทั่วไปซื้อมาคิดรวมกันเพื่อวัดว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลงเท่าไหร่ ซึ่งสัดส่วนของราคาสินค้าและบริการแต่ละชนิดที่จะนำมาคำนวณขึ้นกับผลสำรวจว่าคนใช้จ่ายไปกับอะไรเยอะ
ตัวอย่างเช่น ผลสำรวจค่าใช้จ่ายของคนในเขตเมืองสหรัฐ มีดังนี้ (% เป็นค่าประมาณ)
- ที่อยู่อาศัย 42%
- การเดินทาง 17%
- อาหารและเครื่องดื่ม 15%
- รักษาพยาบาล 7%
- พักผ่อน 6%
- การศึกษาและการสื่อสาร 6%
- เครื่องแต่งกาย 4%
- อื่นๆ 3%
ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำสัดส่วนนี้ไปคำนวณกับราคาสินค้าและบริการในแต่ละหมวดเพื่อดูว่าเพิ่มหรือลดลงไปเท่าไหร่
ไฮไลท์ที่จับตากันคือค่าใช้จ่ายหมวดการเดินทางที่กำลังเพิ่มขึ้นเร็วมาก เนื่องจากราคาน้ำมันแพงขึ้น, คนอัดอั้นอยากเที่ยว, สายการบินหรือบริษัทที่เกี่ยวข้องหาเรื่องขึ้นราคาเอาส่วนหายไปปีที่แล้วคืน โดยตัวเลขเทียบกับเดือนเมษายนมี 2 หมวดที่เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 10% ในเดือนเดียวคือ ราคารถเช่าและราคาตั๋วเครื่องบิน
เราคงต้องมาติดตามกันว่าสุดท้ายแล้วค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางจะเพิ่มไปแค่ไหน ความอัดอั้นเที่ยวของคนจะเยอะถึงขนาดยอมจ่ายตั๋วเครื่องบินแพงกว่าเดิม 5 เท่าไหมนะ ?!!!
BottomLiner
รู้หรือยังว่ามีคอร์สใหม่จาก BottomLiner บน skillane แล้วนะ เน้นเจาะลึก megatrend AI หลักที่สำคัญในการลงทุนไปอีก 5-10 ปีข้างหน้าเลยทีเดียว สนใจเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ : https://www.skilllane.com/courses/AI_Chip_BottomLiner