เงินเฟ้อคืออะไร?? เกิดจากอะไร?? [Beginner]
(มือใหม่ ใส่ใจ Macro Series)
สมมติ ดินแดนสนธยาสารขัณฑ์แห่งหนึ่ง มีทรัพย์สิน 100 บาท พิมพ์เงินออกมาใช้จ่าย 100 บาท วันดีคืนดี พิมพ์เงินออกมาเป็น 103 บาท แต่ทรัพย์สินเท่าเดิม คนจะเชื่อถือไหม? หากอยู่ๆพิมพ์ 200 บาท จะเป็นอย่างไร? หากคนไม่เชื่อถือ จะเป็นอย่างไร?? ค่าเงินอ่อน? ผู้คนยากจน? เศรษฐกิจพังพินาศ?
หลายคนคงได้ยินความกังวลของตลาดถึงการมาของ “เงินเฟ้อ” กันหนาหูทีเดียวกันเลยช่วงนี้ แต่จริงๆแล้วมันคืออะไร มีผลกระทบอย่างไร เรื่องนี้ซับซ้อนไม่แพ้การเลือกหุ้น เรามาค่อยๆทำความเข้าใจกัน
เงินเฟ้อคืออะไร???
“เงินเฟ้อ” พูดง่ายๆ คือภาวะที่ราคาสินค้าหรือบริการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มูลค่าของเงินมีค่าลดลงหรือมีอำนาจในการซื้อ (Purchasing Power) ที่ลดลงนั้นเอง ในโลกลงทุน เราไม่ได้กังวลถึงราคาก๋วยเตี๋ยว ชานมไข่มุก ที่แพงวันแพงคืน แต่เงินเดือนแทบจะเท่าเดิม
การที่เรามากังวลเรื่องพวกนี้กัน ดังที่ยกตัวอย่างในย่อหน้าแรกของบทความนี้ มันคือเรื่องของ ความน่าเชื่อถือ และการควบคุมของธนาคารกลาง ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางค่าเงิน fund flow ไปจนถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตร
ทางทฤษฎีเงินเฟ้อนั้นเกิดจาก 2 สาเหตุด้วยกันหลักๆ
- Cost-Push หรือ ต้นทุนทางการผลิตสินค้าหรือบริการเพิ่มขึ้น เช่นราคาค่าแรงที่เพิ่มขึ้นจากการจ้างพนักงานทำชานมไข่มุก หรือ ค่าเช่าพื้นที่ในการเปิดหน้าร้านชานมที่เพิ่มขึ้นนั้นจะผลักดันให้ราคาชานมไข่มุกเพิ่มขึ้นตามระยะเวลา
- Demand-Pull หรือความต้องการของสินค้าที่เพิ่มขึ้น เช่นถ้าร้านชานมไข่มุกของเรานั้นอร่อยมากและลูกค้าติดใจบอกต่อจนทำให้ลูกค้านั้นสนใจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ก็อาจจะทำให้เราในฐานะผู้ทำธุรกิจปรับเพิ่มราคาขายขึ้นเพื่อสร้างกำไรเพิ่มมากขึ้นตามความต้องการลูกค้า
และในความเป็นจริงในยุคนี้ ยังเพิ่มได้อีกทาง คือการพิมพ์เงินเพิ่ม จริงๆแล้วก็มีการพิมพ์ธรรมดา บ้างก็พิมพ์แหลกต้อนรับ hyper inflation หรือเฟ้อโลกแตกโลกแตน เราน่าจะได้เห็นเหตุการณ์ที่เวเนซูเอลา อาร์เจนตินา หรือเยอรมนีในอดีต เป็นตัวอย่างกันแล้ว
ในโลกนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อ จะวัดตัวอย่างราคาสินค้า (Basket lists) โดยรวมในประเทศนั้นๆ ว่ามีการปรับเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด ที่นักลงทุนเราดูกัน หลักๆคือ CPI (ดัชนีราคาผู้บริโภค) ซึ่งก็จะมี Headline (รวมสินค้าทุกอย่างในตะกร้า) และ Core (หักสินค้าที่ขึ้นลงตามฤดูกาลเช่น หมวดอาหารสดและพลังงาน) ส่วนของสหรัฐ เราดู PCE หรือดัชนีราคาที่คำนวณจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Personal Consumption Expenditures) ซึ่งคำนวนจากเม็ดเงินจริงที่ผู้บริโภคใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการ
โดยปกติแล้วเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างอ่อนๆ นั้นส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ บ่งบอกถึงเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวดีขึ้น แต่หากเงินพุ่งสูงมากเกินไปนั้นอาจจะส่งผลต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจได้
ลองนึกภาพหากวันนี้ราคาอาหารที่เรากินเฉลี่ยอยู่ที่มื้อละ 50 บาท แต่ปีถัดมาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่มื้อละ 100 บาท นั้นคงไม่ดีแน่เนื่องจากรายได้ของเรานนั้นอาจจะโตตามไม่ทันซึ่งจะส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจได้
นั้นเป็นเหตุผลที่รัฐบาลทุกๆ ประเทศนั้นพยามควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบที่เศรษฐกิจนั้นจะมีเสถียรภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
สำหรับใครที่สงสัยว่าทำไมตลาดถึงกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในช่วงนี้และเงินเฟ้อมาแล้วส่งผลต่อตลาดยังไง??? รอติดตามได้ในตอนถัดไปครับ
BottomLiner
ภาพ Macro คือเรื่องสำคัญที่ต้องโฟกัสในการลงทุน ลงทุนให้ถูกจังหวะ รู้จักหุ้นและกองทุนให้มากขึ้นเพื่อลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพกับ Exclusive Content ฉบับ BottomLiner สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://forms.gle/DBhATCRfWprbcNuu7