Reverse Repo คืออะไร?
ช่วงเดือนที่ผ่านมา เราอาจจะได้เห็นข่าวว่าทาง FED ได้ดึงสภาพคล่องออกจากระบบกว่า 4.85 แสนล้านดอลลาร์ ผ่านการทำ Reverse Repo
มือใหม่หลายคนอาจจะสงสัย เอะ!!! เจ้า Reverse Repo นี้มันคืออะไร??? ทำงานยังไง??? เรามาหาคำตอบกัน..
ก่อนอื่นเลยเราต้องมาทำความรู้จัก Repo หรือ Repurchase Agreement กันก่อน (เพราะ Reverse Repurchase Agreement ก็คือฝั่งทำตรงข้ามนั่นเอง)
ยกตัวอย่างเช่น ธนาคาร A ต้องการเงินสดเพิ่ม จึง ต้องกู้ ธนาคาร B ผ่าน repurchase agreement เรียกย่อๆว่า repo หรือ rp โดยนำทรัพย์สินของธนาคาร A เช่น ข้าว !! ไปตึ๊ง กับธนาคาร B เป็นหลักประกัน เช่น เอาไปฝากไว้ 100 บาท และบอกว่าพรุ่งนี้นะ จะมาซื้อคืน 101 บาท
ธนาคาร A จะถูกเรียกว่า ผู้ขาย repo
ธนาคาร B จะถูกเรียกว่า ผู้ซื้อ repo
แต่นี่มันโลกยุคไหนแล้ว ธนาคาร B คงไม่รอ A มาไถ่ถอน ก็ทำบัญชีจดๆเอาไว้ว่ามี ข้าวในโกดังเท่าไหร่ แล้วก็ไปขายให้คนอื่นเลยละกัน สู่ท้องตลาด เรียกว่า Open Market Operation แบบนี้ เรียกว่า Reverse Repo
ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ FED ใช้ในการดูแลควบคุมสภาพคล่องในระบบ
ในโลกความเป็นจริง Repo นั้นเป็นการกู้ยืมระยะสั้นโดยมีพันธบัตรเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน (ตัวอย่าง A, B ใช้ข้าว) ระหว่างทาง FED และสถาบันการเงิน โดยสัญญาว่าจะจ่ายเงินคืนบวกดอกเบี้ยภายหลังในวันถัดมา
พูดง่ายๆ ก็คือหาก FED ต้องการเพิ่มสภาพคล่องระยะสั้นในระบบก็แค่ปล่อยกู้ให้กับสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นและให้สถาบันการเงินนำพันธบัตรมาค้ำประกัน เพื่อนำเงินที่ได้นั้นไปหมุนเวียนต่อในระบบเศรษฐกิจ
ในทางกลับกันหาก FED ต้องการดึงสภาพคล่องออกจากระบบก็แค่ทำการขายคืนพันธบัตรออกไปและดึงเม็ดเงินกลับมา สิ่งนี้เรียกว่าการทำ Reverse Repo หรือ Reverse Repurchase Agreement นั้นเอง
การทำธุรกรรมทั้งสองแบบนี้ เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ FED ใช้ในการควบคุมอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น โดยทำหน้าที่เป็นแหล่งเงินทุนให้กับสถาบันการเงินที่ต้องการสภาพคล่องซะเอง แทนที่จะไปกู้ยืมระหว่างสถาบันการเงินกันเองซึ่งอาจจะส่งผลให้ต้นทุนหรือดอกเบี้ยนั้นแกว่งตามความต้องการของปริมาณเงินได้
เหตุการณ์ล่าสุดเกิดจากที่สภาพคล่องในระบบมากเกินไป สะท้อนจากอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (ON Repo Rate) ที่ลงไปที่ระดับ -0.1% ในวันที่ 27 พฤษภาคม ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.00-0.25%
ทำให้ทาง FED ได้ทำ Reverse Repo สูงสุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์กว่า 4.85 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อดึงสภาพคล่องส่วนเกินออกจากระบบและรักษาระดับดอกเบี้ยให้อยู่ในกรอบนโยบายนั้นเอง
BottomLiner
รู้หรือยังว่ามีคอร์สใหม่จาก BottomLiner บน skillane แล้วนะ เน้นเจาะลึก megatrend AI หัวใจหลักที่สำคัญในการลงทุนไปอีก 5-10 ปีข้างหน้าเลยทีเดียว สนใจเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ : https://www.skilllane.com/courses/AI_Chip_BottomLiner