FACEBOOK Q3 2018 : รายได้เติบโต 33% แต่ Margin หด, หวัง Stories คือตัวทำเงินตัวต่อไป
FACEBOOK Q3 2018 : รายได้เติบโต 33% แต่ถูกกดดันด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น, Stories คือตัวทำเงินตัวต่อไป
FACEBOOK รายงานรายได้ในไตรมาส 3 ที่ 13,727 ล้านดอลล่าห์ โต 33% ขณะที่กำไรอยู่ที่ 5,137 ล้านดอลล่าห์ โตเพียง 9% จากไตรมาส 3 ปี 2017 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ Operating Margin ลดลงจาก 50% มาอยู่ที่ 42% หลักๆมาจากการจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี เพื่อมาปรับปรุงพัฒนาด้านความปลอดภัยและเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โดยพนักงานปัจจุบันอยู่ที่ 33,600 คน เพิ่มขึ้น 45% จากปีที่แล้ว
ตัวเลขผู้ใช้งานรายเดือน (Monthly Active Users) เพิ่มขึ้น 9.6% YoY โดยผู้ใช้โซนเอเชียมีการเติบโตสูงสุด 15.5% โดยเฉพาะใน อินเดีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตามผู้ใช้ในยุโรปลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สอง โดยลดลง 1 ล้านคน เนื่องจากความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว (privacy) และกฏหมาย GDPR
รายได้ค่าโฆษณายังคงเติบโตได้ 33% โดยเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ยังโตได้ 38% 34% และ 33% ตามลำดับ ส่วนอื่นๆเติบโตได้ 26% เนื่องจากผลกระทบด้านค่าเงินและปัญหาเศรษฐกิจในลาตินอเมริกา ทั้งนี้รายได้โฆษณามาจาก mobile platform คิดเป็นถึง 92%
มาร์ค ซัคเคอร์เบิกค์ พบว่าพฤติกรรมผู้ใช้เริ่มเปลี่ยนไป โดยผู้ใช้หันมาแชร์และโพสต์ private messaging และ Stories มากขึ้นทั้งใน Facebook, Instagram และ Whatapp เพราะความกังวลเรืื่อง privacy ที่ต้องการให้ข้อมูลที่แชร์อยู่ในกลุ่มคนรู้จักของตัวเองและไม่ต้องการให้ข้อมูลที่โพสต์ไปอยู่ไปตลอดกาล
ทางเฟสบุ๊คกำไรพัฒนาระบบเพื่อหารายได้จาก Stories ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยคาดว่ารายได้จาก Stories จะมีความสำคัญไม่แพ้รายได้โฆษณาจาก New Feed ในอนาคต นอกจากนี้ยังพยายามหารายได้จาก IGTV และ FACEBOOK WATCH ซึ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นเช่นกัน
สำหรับในไตรมาสหน้า ทางบริษัทคาดว่ารายได้จะโตในอัตราเลขตัวเดียว (mid to high single digit growth rate) หลักๆมาจากราคาที่ถูกกระทบจากเรื่องความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและการหาโฟกัสการหารายได้จาก Stories ที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น