TKN สรุปประชุม AGM ปี 2024
รายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567
บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน)
KEY HIGHLIGHTS:
Agenda 1
- รับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566
- ผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติรายงานการประชุมดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 100% ของผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมประชุม
Agenda 2
รับทราบผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประจำปี 2566
- บริษัทมีรายได้จากการขาย 5,323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากปี 2565
- รายได้ในประเทศ 1,949 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3%
- เกิดจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
- การทำการตลาดทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงการใช้ KOLs, YouTubers และรีวิวเพจต่าง ๆ เพื่อเพิ่มการรับรู้และกระตุ้นการซื้อ
- เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายในร้านค้าท้องถิ่นและการปรับโครงสร้างการขายทั้งใน Modern Trade และ Traditional Trade
- จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเป็น 28 ล้านคนในปี 2566 จาก 11.1 ล้านคนในปี 2565
- รายได้จากจีน 1,339 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.7%
- การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองความนิยมของผู้บริโภคจีน
- เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายใน Modern Trade และช่องทางออนไลน์
- จัดกิจกรรมการตลาดแบบ Hybrid Event เพื่อเข้าถึงผู้บริโภค
- รายได้จากประเทศอื่น ๆ 2,035 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.6% รายได้หลักมาจากสหรัฐอเมริกาและอินโดนีเซีย
- ในสหรัฐอเมริกา เพิ่มช่องทางการขายใน Costco Wholesale และช่องทางอื่น ๆ
- ในอินโดนีเซีย ตลาดมุสลิมมีการบริโภคสาหร่ายเพิ่มขึ้นและมีศักยภาพการเติบโตสูง จึงมีการเปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายในไตรมาสที่ 4 เพื่อขยายช่องทางการขายใน Traditional Trade
- รายได้ในประเทศ 1,949 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3%
- อัตรากำไรขั้นต้น 34.1% เพิ่มขึ้น 5.3%
- เกิดจากการเพิ่มยอดขาย 22% ทำให้ลดต้นทุนต่อหน่วยการผลิต
- การพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโดยใช้ทรัพยากรและแรงงานที่มีอยู่
- การปรับราคาและขนาดผลิตภัณฑ์ในไตรมาสที่ 4 ส่งผลให้มีการจัดการพอร์ตผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นและเพิ่มอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ย
- การใช้พลังงานหมุนเวียน (Solar Roof) ลดค่าไฟฟ้ากว่า 15% ในปี 2566
- กำไรสุทธิ 743 ล้านบาท คิดเป็น 14% ของยอดขาย เพิ่มขึ้น 71% จากปี 2565
Agenda 3
อนุมัติรายงานทางการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566
- รายได้จากการขาย 5,323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากปี 2565 ปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเติบโต ได้แก่ การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ ๆ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
- กำไรขั้นต้น 1,815 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% การเพิ่มยอดขายทำให้ลดต้นทุนต่อหน่วยการผลิต และการใช้เครื่องจักรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
- ค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่าย 633 ล้านบาท คิดเป็น 12% ของรายได้จากการขาย ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการขยายตลาดระหว่างประเทศและการทำตลาดที่สูงขึ้น
- ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 405 ล้านบาท คิดเป็น 8% ของรายได้จากการขาย เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายบุคลากรและการลงทุนในเทคโนโลยี
- ภาษีเงินได้ 48 ล้านบาท คิดเป็น 1% ของรายได้จากการขาย
- กำไรสุทธิ 743 ล้านบาท คิดเป็น 14% ของรายได้จากการขาย เพิ่มขึ้น 71% จากปี 2565 เกิดจากการปรับราคาผลิตภัณฑ์ในไตรมาสที่ 4 การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
- สินทรัพย์รวม 3,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากปี 2565
- สินทรัพย์หมุนเวียน 2,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%
- เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 297 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565
- ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น ๆ เพิ่มขึ้น 43% เป็น 923 ล้านบาท เนื่องจากการจ่ายชำระวัตถุดิบล่วงหน้า
- สินค้าคงเหลือ 665 ล้านบาท ลดลง 5% เนื่องจากระยะเวลาการเก็บสินค้าสั้นลงจาก 80 วันเป็น 47 วัน
- สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 1,172 ล้านบาท ลดลง 5% จากการให้เงินกู้ระยะยาวแก่บริษัทร่วมจำนวน 7.1 ล้านบาท และค่าเสื่อมราคา
- สินทรัพย์หมุนเวียน 2,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%
- หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 3,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1%
- หนี้สินรวม 1,001 ล้านบาท คิดเป็น 31% ของสินทรัพย์รวม โดยหนี้สินหมุนเวียนลดลง 131 ล้านบาท เนื่องจากการลดลงของเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงิน และหนี้สินไม่หมุนเวียนลดลงเนื่องจากการโอนเงินกู้ระยะยาวเป็นเงินกู้ระยะสั้น
- ส่วนของผู้ถือหุ้น 2,223 ล้านบาท คิดเป็น 69% ของสินทรัพย์รวม
Agenda 4
อนุมัติการจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี 2566 เป็นทุนสำรองตามกฎหมาย และการจ่ายเงินปันผล
- บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษี ทุนสำรองตามกฎหมาย และสำรองอื่น ๆ
- สำหรับผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลรวม 0.46 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินรวม 634.8 ล้านบาท หรือ 84% ของกำไรสุทธิ
- บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสองครั้งในปี 2566 ดังนี้:
- ปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก จ่ายเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 เป็นเงิน 289.8 ล้านบาท หรือ 0.21 บาทต่อหุ้น
- ปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 จ่ายเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 เป็นเงิน 138 ล้านบาท หรือ 0.10 บาทต่อหุ้น
- เงินปันผลงวดสุดท้าย 0.15 บาทต่อหุ้น จะจ่ายในวันที่ 7 พฤษภาคม 2567
- ผู้ถือหุ้นเสนอให้พิจารณาวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลหลังการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อไม่ให้กระทบการตัดสินใจของนักลงทุน
Agenda 5
อนุมัติการแต่งตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ครบกำหนดออกตามวาระ
- นางวณี ทัศนมณเฑียร, นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์, นายจิรพงษ์ สันติภิรมย์กุล ได้รับการแต่งตั้งกลับเข้าดำรงตำแหน่งอีกวาระหนึ่ง
Agenda 6
อนุมัติค่าตอบแทนกรรมการและคณะกรรมการย่อยประจำปี 2567
- ค่าตอบแทนรายเดือนสำหรับกรรมการบริษัทฯ ไม่เกิน 2,760,000 บาทต่อปี
- โบนัสจากผลการดำเนินงานของกรรมการในปี 2566 รวม 690,000 บาท
- ค่าตอบแทนรายเดือนสำหรับคณะกรรมการตรวจสอบไม่เกิน 600,000 บาทต่อปี
- ค่าตอบแทนการประชุมสำหรับคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน, คณะกรรมการบรรษัทภิบาล, คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงตามจำนวนที่กำหนด
Agenda 7
อนุมัติการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีประจำปี 2567
- แต่งตั้ง Deloitte Touche Tohmatsu Jaiyos Audit Company Limited เป็นผู้สอบบัญชีบริษัท
- ค่าตอบแทนการตรวจสอบรวม 2,580,000 บาท สำหรับบริษัทฯ และ 1,050,000 บาท สำหรับบริษัทย่อย
Agenda 8
- เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเสนอเรื่องอื่น ๆ แต่ไม่มีผู้ถือหุ้นเสนอเรื่องเพิ่มเติม
ประชุมสิ้นสุดเวลา 16.50 น. โดยมีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 386 ราย คิดเป็น 73.98% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ
Disclaimer: บทความนี้เขียนโดย AI
เนื้อหานี้จัดทำโดยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) หรือที่รู้จักกันในชื่อ AI เขียนบทความ โมเดลนี้ได้รับการฝึกฝนด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อให้สามารถเขียนข้อความที่คล้ายกับมนุษย์ได้
อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าเนื้อหานี้ไม่ได้เขียนโดยมนุษย์ และอาจไม่ถูกต้อง ครบถ้วน หรือสมบูรณ์ AI ยังอยู่ในช่วงพัฒนาและอาจสร้างข้อความที่ผิดพลาด บิดเบือน หรือไม่เป็นความจริง
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและประเมินเนื้อหานี้ ตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งอื่น ๆ เพิ่มเติม และอย่าพึ่งพาเนื้อหานี้เพียงแหล่งเดียว