เจาะลึก Airbnb ทำไมฟื้นตัวแรงและเร็วกว่าโรงแรม
BottomLiner Exclusive
.
ขอ tie in ก่อนนิดหนึ่ง
บทความนี้เป็นตัวอย่าง จากกลุ่มปิด Exclusive
รายละเอียดเพิ่มเติม>> https://www.facebook.com/bottomlinerglobal/posts/pfbid0SHnsZFeab9SJRCN8CCNapsLcm8pp1ZN2omsmE4hy3LpGBQp9vpMerEfn8ECgqk1Wl
.
จุดเด่นเหนือคู่แข่ง
1.Product มีความ unique และเป็นสิ่งที่โรงแรมทำไม่ได้
จุดเด่นของห้องพัก Airbnb บางส่วน คือ เมืองรองและสถานที่แปลกตาห่างไกลที่โรงแรมไม่สามารถเข้าถึงเนื่องจากความคุ้มค่าในการลงทุนพื้นที่ที่มีคนน้อยและต้องกังวลว่าโรงแรมจะทำกำไรได้ไหม
.
เมื่อก่อนคนจะมีความคิดว่าการมาพัก Airbnb จะถูกกว่าโรงแรม แต่ปัจจุบันก็มีบางส่วนแพงกว่าไปแล้วเนื่องจากความ unique ของที่พัก ให้สิ่งที่โรงแรมให้ไม่ได้ เช่น การเช่าบ้าน Airbnb 1 หลัง ได้พื้นที่มากกว่าโรงแรม 1 ห้อง จึงดูคุ้มค่ากว่าสำหรับบางคน
ทางด้านความแพงขึ้นของ Airbnb สะท้อนไปใน ADR (Average daily rate) ของ platform ในสหรัฐที่เริ่มมีค่าเฉลี่ยต่อคืนมากกว่าโรงแรมในพื้นที่ใกล้กัน และยังแซงหน้าไปแล้วหลังเปิดเมือง
(FUN FACT: Airbnb ได้กลายเป็น Verb ที่ใช้ในการจองห้องพักไปแล้ว)
.
2.Brand และ Network effect ที่เริ่มทำงานแล้ว
ตัวตน brand ที่ดูเป็นมิตรจากการสร้าง trust กับ host ทำให้ Airbnb มี supply ห้องพักที่แข็งแกร่ง
ซึ่งเมื่อมี host เยอะ ผู้เข้าพักก็จะได้มีตัวเลือกเยอะขึ้นและพึงพอใจบริการมากขึ้น
เมื่อผู้เข้าพักเยอะก็จะมี host คนใหม่ๆอยากมาให้เช่าบ้านในแพลตฟอร์มเพื่อสร้างรายได้มากขึ้น
ทั้งหมดวนเป็น flywheel
.
แล้วแบรนด์นี่เองเป็นตัวหลักที่ทำให้ธุรกิจ platform เกิดได้เพราะ platform จะแข็งแกร่งไม่แข็งแกร่งอยู่ที่แบรนด์ที่จะสร้าง network effect ที่แข็งแกร่งได้ไหมจากการดึงดูด users เข้ามา แน่นอนว่าการบริหารและพัฒนาฟีเจอร์ของ Airbnb ก็จะเน้นไปที่ community ในการเสริม network effect ที่แข็งแกร่งขึ้น
.
อย่างกลยุทธ์ล่าสุดที่ Airbnb ใช้ Host Endowment Fund โดยจะออกหุ้น Class-H 9.2 ล้านหุ้น เพื่อจะให้ host ที่ประสบความสำเร็จมาสอน host ที่ยังไม่มีประสบการณ์ ตรงนี้จะเป็นกลยุทธ์ที่เน้นฝั่ง supply side ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อดึงดูดตัว demand
ในท้ายที่สุดตัว Network effect ก็จะมาสะท้อนใน marketing cost เมื่อ guest ได้รับบริการที่ดีและพูดปากต่อปาก สังเกตได้จาก traffic ของ Airbnb 90% เป็นแบบ direct โดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาที่ต่างจากแพลตฟอร์มจองโรงแรมรายอื่นๆ อย่างเช่นกรณีของ Booking ที่ใช้เงินไปกับ sales & marketing 42.7% จากรายได้รวม เทียบกับ Airbnb ใช้ไป 13.9% ในงบสิ้นปี 2021
.
3.Founder
Brian Chesky เขาได้พิสูจน์ตัวเองมาตั้งแต่ยังเป็น startup ผ่านการเร่งเติบโตแบบเหนือกว่า 10 เท่าจนบริษัทเข้า IPO ในตลาดหุ้นได้เพราะไอเดียที่ไม่เหมือนใคร ทั้ง Passion ความทะเยอทะยานที่ต้องแก้ปัญหา, การสร้าง trust ให้กับแบรนด์ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก จนถึงจุดนี้คงไม่มีใครยอมรับเขาว่าเขาคือหนึ่งใน Founder และ CEO ที่ดีที่สุดคนหนึ่ง
.
Key Metrics ที่ควรติดตามหุ้น Airbnb
1.GBV (Gross booking value) = transaction การจองห้องพักทั้งหมดที่เกิดบนแพลตฟอร์ม
2.Night and experience booked = จำนวนการเข้าพัก
3.ADR (Average daily rate) = ราคาเฉลี่ยต่อห้องพัก
4.Take rate % = ค่าธรรมเนียมที่บริษัทเก็บ
.
ความเสี่ยง
1.Regulation เป็นตัวจำกัดจำนวน supply ห้องพักในหลายตัวเมืองของโลก
เช่น อย่างการจำกัดวันที่ให้ใช้ home sharing ในญี่ปุ่นหรือในบางตัวเมืองต้องขอใบอนุญาตและต้องเป็นเจ้าของที่พักที่จะปล่อยเช่าเท่านั้น ห้ามเช่าต่อมาปล่อย
.
2.Competition ทั้งในประเทศอย่าง Vrbo และคู่แข่งจาก local ในจีนอย่าง Tujia ข่าวล่าสุดในเมื่อวันที่ 23 เดือนพฤษภาที่ผ่านมาได้ประกาศว่า Airbnb ได้ปิดธุรกิจ domestic ในประเทศจีนอย่างเป็นทางการแต่จะยังเปิดช่องให้คนจีนใช้บริการที่พักในต่างประเทศ
.
BottomLiner
#บทสรุปการลงทุน #หุ้น #หุ้นต่างประเทศ #ABNB #airbnb #ลงทุนต่างประเทศ #สอนลงทุนต่างประเทศ