กองทุน MRENEW เติบโตไปกับ “พลังงานสะอาด” และ “พลังงานทดแทน”
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของบริการ BottomLiner Exclusive ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ >>
https://www.facebook.com/bottomlinerglobal/posts/pfbid0gYz5ULbpnX3cVmGQT1q4xqrFdqiUBfT5qoSPRHDHxxURVU1SowtaC1uZEG6i8nAfl
.
เมื่อพูดถึงเทรนด์ที่มาแรงในช่วงไม่กี่ปีมานี้ หลายคนก็คงจะนึกถึง “พลังงานสะอาด และ พลังงานทดแทน” และยังเป็นธุรกิจแห่งอนาคตอีกด้วย หลายประเทศทั่วโลกก็ได้ออกนโยบายที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้น
.
เราเลยหยิบหนึ่งในกองทุนกลุ่มพลังงานสะอาดมาเล่าให้ฟัง ซึ่งก็คือ กองทุน MRENEW
.
กองทุน MRENEW ลงทุนใน BGF Sustainable Energy Fund บริหารจัดการโดย BlackRock บริษัทจัดการชั้นนำของโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่คำนึงและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
.
โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในธุรกิจพลังงานยั่งยืน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลก ได้แก่
- Clean Energy (พลังงานสะอาด)
- Energy Efficiency (การเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน)
- Clean Transportation (การคมนาคมที่ใช้พลังงานทดแทน)
.
เมื่อแบ่งสัดส่วนการลงทุนตามกลุ่มอุตสาหกรรม เป็นดังนี้
Clean Power – 23.34%
Industrial Efficiency – 18.52%
Automotive & Sustainable Mobility – 18.28%
Building & Consumer – 11.91%
Renewable Energy Technology – 10.64%
.
Top Holdings - NEXTERA ENERGY 6.51%
- RWE AG 5.10%
- ENEL SPA 4.46%
- SAMSUNG SDI 3.70%
- LG CHEM 3.68%
.
จะเห็นได้ว่า กองทุนเน้นไปที่กลุ่มพลังงานสะอาดมากที่สุด และยังได้กระจายไปยังกลุ่มอื่นในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ถือว่ามีการกระจายความเสี่ยงได้ดี ในขณะที่สัดส่วนลงทุนแบ่งตามรายประเทศ พบว่าเป็นหุ้นจากฝั่งสหรัฐฯ สูงถึง 42.55% รองลงมา คือ เยอรมัน 10.6%
.
เมื่อย้อนไปดูผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงมากค่อนข้างเยอะ แต่ยังมีกลุ่ม Clean Energy และหุ้นกลุ่ม EV บางตัวที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกได้ สถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะเคยเกิดขึ้นแล้วในช่วงปี 1970-80 ด้วยเหตุผลคล้ายกับในปัจจุบัน คือ “มีสงคราม พลังงานแพง เงินเฟ้อสูง” เป็นโอกาสของหุ้นกลุ่มพลังงานเกือบทุกชนิดที่ได้โอกาสขยายกำลังการผลิต ส่งผลให้ราคาหุ้นบวก (โดยเฉพาะกลุ่มผู้นำตลาด)
.
รัฐบาลทั่วโลกเริ่มออกนโยบายสนับสนุน เช่น ให้ภาคธุรกิจหันไปใช้พลังงานสะอาดแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล, เยอรมนีตั้งเป้าหมายใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทดแทน 100% ภายในปี 2035 เพื่อลดการใช้พลังงานจากรัสเซีย, ยุโรปเห็นพ้องยุติขายรถที่ใช้น้ำมัน ภายในปี 2035 ดังนั้นรถใหม่ที่จะจำหน่ายหลังปี 2035 เป็นต้นไป ต้องเป็น “รถยนต์ไฟฟ้า” หรือ “รถ EV” เท่านั้น เพื่อผลักดันนโยบายเป็นกลางทางคาร์บอนให้ได้ภายในปี 2050 ตามเป้าหมาย
.
นอกจากนี้ การผ่านร่างกฎหมาย Inflation Reduction Act 2022 เป็นการลงทุนด้านพลังงานสะอาดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อน เน้นลดการปล่อยคาร์บอน และปูทางให้ผู้บริโภคหันมาใช้พลังงานสะอาด
.
จากปัจจัยที่ได้พูดไว้ข้างต้นล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นธีมพลังงานสะอาดในระยะยาว เราจึงมองว่าอุตสาหกรรมนี้ในอนาคตยังสามารถเติบโตสูงขึ้นได้อีก
.
สำหรับคนที่สนใจลงทุนในกระแสธีมพลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน ทางกองทุน MRENEW มีหลาย Class ให้เลือกลงทุนตามความต้องการทางด้านการลงทุนของแต่ละคน มีทั้งกองทุนแบบปันผล (MRENEW-D), กองทุนไม่ปันผล (MRENEW-A), และ กองทุนสำหรับลดหย่อนภาษี (MRENEW-SSF และ MRENEWRMF)
.
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ส.ค. 2022
.
BottomLiner