กองทุน ONE-UGG ลงทุนในหุ้นเติบโตทั่วโลก ตามสไตล์ค่าย Baillie Gifford
อีกกองทุนชื่อดังที่ทุกคนน่าจะรู้จักจากบลจ.วรรณ “ONE-UGG” เมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมากองทุนนี้ทำผลตอบแทนได้ดีเยี่ยม เรียกได้ว่าค่อนข้างโดดเด่นในกลุ่ม จึงโดนใจหลายคนและกลายมาเป็นแฟนคลับ
.
วันนี้เราเลยหยิบกองนี้มาเล่าอีกครั้งว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงสนใจ แล้วเค้าลงทุนอะไรบ้างถึงทำให้ผลงานกองทุนโดดเด่น
.
กองทุน ONE-UGG ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund เป็นกองทุนหลัก เน้นการลงทุนระยะยาวในหุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูง โดยวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แบบ Bottom-Up เพื่อหาหุ้นที่มีศักยภาพ และลงทุนแบบ High Conviction ซึ่งปัจจุบันมีหุ้นอยู่ในพอร์ตเพียง 37 ตัว ถือน้อยตัวแบบนี้แสดงว่าคนบริหารพอร์ตต้องมั่นใจมากๆ
.
มีหุ้น 10 อันดับแรกรวมกันประมาณ 45% ได้แก่
1. NVIDIA – 5.6%
2. Amazon – 5.6%
3. Moderna – 5.5%
4. Tesla – 5.1%
5. ASML – 4.4%
6. Meituan – 4.1%
7. Netflix – 3.8%
8. Kering – 3.7%
9. Illumina – 3.7%
10. Cloudflare – 3.6%
.
หากแบ่งสัดส่วนตามอุตสาหกรรมหลักที่ลงทุน พบว่า
32% ลงทุนในสินค้าฟุ่มเฟือย
31% ลงทุนในเทคโนโลยี
17% ลงทุนใน Health Care
12% ลงทุนในบริการด้านการสื่อสาร
2% ลงทุนในอุตสาหกรรม
.
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า ลงทุนในหุ้น Growth ก็น่าจะมีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเยอะสุด แต่ทำไมสัดส่วนของกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยถึงเยอะเท่ากัน เพราะจริงๆแล้ว Tesla, Amazon หุ้นเทคสุดล้ำกลับไม่ได้ถูกจัดอยู่ในหุ้นเทคตามการเรียงในตลาดหุ้น แต่จัดเป็นอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือย (ทั้งที่ทั้งสองตัวสุดจะเป็นเทคจ๋า)
จึงเป็นสาเหตุให้หุ้น Growth ไม่ได้มีแค่หุ้นเทคโนโลยีอย่างเดียว
.
เมื่อย้อนไปดูผลตอบแทน 1 ปีล่าสุด จะเห็นได้ชัดเจนว่าค่อนข้างเหวี่ยงพอสมควร และไม่กี่เดือนมานี้ผลตอบแทนก็ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
.
สาเหตุหลักๆ คือ เมื่อปี 2020 หุ้นส่วนใหญ่ในพอร์ตส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์จากการ Work from home จึงทำให้บริษัทเติบโตและสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าหุ้นในอุตสาหกรรมอื่น แต่ตอนนี้สถานการณ์เริ่มกลับสู่ปกติแถมเรากำลังเผชิญกับความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ จึงมีนักลงทุนบางส่วนขายหุ้น Growth ที่ราคาแพง แล้วนำไปลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์อื่นที่ดูคุ้มค่าในการเป็นเกราะป้องกันเงินเฟ้อได้ ดังนั้น ONE-UGG เลยรับไปเต็มๆ
.
ในระยะสั้นหุ้น Growth จะมีความผันผวนมากกว่าหุ้น Value เป็นเรื่องปกติ ดังนั้นกองทุน ONE-UGG จึงค่อนข้างผันผวนมากในระยะสั้น (เห็นได้จากค่า SD ที่ 18.8% ต่อปี และ Maximum Drawdown อยู่ที่ -24%) ลักษณะแบบนี้จึงไม่เหมาะกับการถือระยะสั้นนะ เพราะถ้าเจอตลาดถล่มราคาไหล Drawdown -24% แล้วไปขาย จะกลายเป็นขาดทุนถาวรไปเลย
.
แต่ถ้าสนใจลงทุนระยะยาว 5 – 10 ปี กองทุนนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะผลงานที่ผ่านมาทาง Baillie Gifford พิสูจน์ตัวหลายครั้งแล้วว่าทำได้ดีเลยทีเดียว ถ้ายังมองเห็นโอกาสการเติบโตในหุ้นเทคทั้งหลายก็ไม่ควรพลาดกองทุนนี้
.
สำหรับคนที่สนใจลงทุนในกองทุน ONE-UGG ทางบลจ.วรรณก็ยังมีออกกองทุนสำหรับใช้ลดหย่อนภาษีด้วยนะ คือ ONE-UGG-ASSF และ ONE-UGERMF-A สามารถเลือกซื้อตามวัตถุประสงค์การลงทุนของแต่ละคนได้เลย
.
ข้อมูล ณ วันที่ 30/11/2021
.
BottomLiner