รู้จัก OMO ผู้ช่วยเรื่องการลงทุนและปรับพอร์ตโดย BottomLiner
Optimal Megatrend Opportunities หรือ OMO (โอโม่) เป็นพอร์ตลงทุนที่บริหารโดย BottomLiner ผ่านการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Finnomena
ใช้ Framework แบบ BottomLiner ที่ดูทั้ง Top-Down, Bottom-Up และ Sentiment
เพื่อลงทุนใน Megatrend เด่น กับกองทุนที่ใช่ พร้อม Optimize ความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ได้รับ
.
เพราะไม่ใช่ทุก Megatrend จะเหมาะลงทุนอยู่ตลอดเวลา หากซี้ซั๊วเข้าไปผิด timing ลงทุนอาจติดดอยเป็นเวลานานเกินไปได้ OMO จึงได้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนที่ อยากเกาะกระแส Megatrend แต่ไม่รู้จะลงทุนอะไร และไม่เสี่ยงเกินไป
.
#แรงบันดาลใจและที่มาของการสร้างพอร์ต
โอกาสลงทุนใน Megatrend … วลีนี้ ฟังกันจนเบื่อ แต่ที่เลวร้ายกว่าคือ แล้ว Megatrend ไหน ลงทุนได้ มากกว่า .. เราอยากให้นักลงทุนหลุดพ้นจากปัญหานี้ จึงได้สร้างพอร์ตที่คัด Megatrend ที่น่าลงทุนในช่วง 6 – 24 เดือนมาให้ ไม่ใช่แบบ เอ้อ ลงไปเลย 5 ปี 10 ปีนะ กำไรแน่ ๆ แบบนั้นใครก็พูดได้ และที่สำคัญการลงในแต่ละธีมนั้น “ความเสี่ยงไม่เท่ากัน” เราจะจัดการตรงนี้ด้วยเทคนิคเดียวกับ Ray Dalio All Weather Portfolio (Risk Budgeting) โดยรันโมเดลกว่า 1 ล้านครั้งเพื่อ Balance ความเสี่ยงและหาสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมที่สุด
.
#จุดเด่นและกลยุทธ์ของพอร์ต
กลยุทธ์การลงทุนที่ผสมผสาน การเลือก Megatrend ที่ดี กองทุนที่ใช่
และแบ่งน้ำหนักการลงทุนด้วย Risk Budgeting เทคนิคเหมือน Ray Dalio มาช่วยในการจัดพอร์ตการลงทุน
ตัวอย่าง Megatrend ที่ BottomLiner ชอบ
– อยู่ในเทรนด์การเติบโต มี S Curve ใหม่ ๆ ไม่ใช่ megatrend ที่รอวันตายหรือ bubble เกินเหตุ
– มีรัฐบาลและกฎหมายสนับสนุน
– ปัจจัยภายนอกเร่งให้เติบโต เช่น น้ำมันแพงเร่งให้คนใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
Universe ของธีมต่าง ๆ คอยอัปเดตเรื่อย ๆ
.
#การควบคุมความเสี่ยง
แบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ
1. การจัดสรรน้ำหนักกองทุนหุ้น
กำหนดน้ำหนักลงทุนโดยใช้ Risk Budgeting โดยมองพอร์ตในรูปแบบของ Risk Contribution ไม่ใช่แค่น้ำหนักการลงทุน Traditional Allocation ทั่วไป
คำว่า risk contribution คือพอร์ตเราถูกขับเคลื่อนโดยอะไรเท่าไหร่ เช่นลงหุ้น 60 ตราสารหนี้ 40 แต่พอร์ตได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของหุ้นสูงถึง 80% ดังนั้นหากจะให้ risk parity สองฝั่งเสี่ยงเท่าๆกันจริงๆ จะต้องลง หุ้นเพียง 30% (สมมุติ)
ในที่นี้ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการลงทุนเป็นธีมได้ ไม่จำเป็นต้องเป็น multi-asset ตัวอย่างเช่นต้องการลงทุนใน biotech กับลงใน EV เท่า ๆ กัน อย่างละครึ่ง ๆ คือ 50% .. แต่แบบนั้นจริงๆแล้ว พอร์ตเราอาจจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของราคากองทุน biotech สูงถึง 70% ส่วน EV ส่งผลต่อความผันผวนของพอร์ตเราเพียง 30%
ดังนั้น หากเราต้องการความเสี่ยงจาก biotech กับ EV เท่าๆกัน ก็ควรลง biotech น้อยกว่า EV เช่น 25% / 75% (ตัวเลขสมมติ ของจริงจะได้จากการรันโมเดลความเสี่ยง)
.
2. อีกระดับของการคุมความเสี่ยงคือการคุมเงินสดและตราสารหนี้ในพอร์ต
สำหรับกลยุทธ์นี้ จะอิงตามนี้
โดยผสมผสานเทคนิคจากนักลงทุนและผู้จัดการกองทุนชื่อดังต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และใช้เทคนิคของเราเองเช่น BottomLiner Inventory Cycle ร่วมด้วย
สินทรัพย์ในพอร์ต
การลงทุนจะเน้นการกระจายความเสี่ยงผ่านกองทุนรวมหุ้น และมีการกระจายความเสี่ยงไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ เพื่อลดความเสี่ยงโดยรวมลง หรือเพื่อประโยชน์ของการ “ซื้อถูก ขายแพง” ผ่าน Rebalance Mechanism
.
#เกณฑ์การคัดเลือกกองทุน
เนื่องจากเมื่อสกรีนแบ่งตาม Theme ออกมาได้แล้ว มักจะมีตัวเลือกกองทุนไม่มากนัก เราจะดูตามหลักเกณฑ์ดังนี้
- อยู่ในธีมหรืออุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโต ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
- กองทุนทำผลตอบแทนได้ดี และปัจจัยทางการตลาดอื่นๆเกื้อหนุน
- Top 5 Holding ที่ลงทุน BottomLiner ดูแล้วชอบ ตรงนี้คือสิ่งที่แตกต่างกับการเลือกกองทุนโดยทั่วไป หากอยู่ในลิสที่ cover / top shelf ของเราจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
- ตัวบริษัทจัดการกองทุนรวม และผู้จัดการกองทุนมีความน่าเชื่อถือ ค่าธรรมเนียมเหมาะสม
.
#ผลการทดสอบย้อนหลัง (Backtest)
เปรียบเทียบกลยุทธ์ของ Optimal Megatrend Opportunities (OMO) กับ ARKK (ARK Innovation ETF) ที่ลงทุนเน้นการเติบโต จะเห็นว่าตั้งแต่ช่วงสิ้นปี 2021 ที่ตลาดหุ้นตกแรง ฝั่ง ARKK ติดลบถึง -50% แต่ OMO ยังแข็งกว่าที่ราว -10%
ทั้งนี้ ผลตอบแทนในอดีต ไม่ได้การตันตีผลตอบแทนในอนาคต
.
#พอร์ตนี้เหมาะกับผู้ที่…
– ต้องการลงทุนในหุ้น Megatrend ทั่วโลก และมีการคุมความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
– อยากได้ผลตอบแทนจากภูมิภาคอื่น นอกเหนือจากหุ้นไทย
– ไม่รู้จะลงทุนอะไรดี อยากลงอะไรที่มันได้กำไร รับความเสี่ยงขาดทุนได้ พร้อมลงทุนระยะยาวเกิน 1 ปีขึ้นไป
#การปรับพอร์ต
ปรับพอร์ตแบบ Dynamic พิจารณาเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น ไม่มีระยะเวลาตายตัว
.
สำหรับท่านที่สนใจ ทาง BottomLiner ได้เตรียมทีมงานพิเศษไว้ดูแล ลูกค้า OMO โดยเฉพาะ
สามารถกรอกฟอร์มได้เลยครับ
https://forms.gle/jexJFhvjs9Q2Hbq49
=====
ท่านใดที่เป็นลูกค้า Finnomena อยู่แล้ว สามารถลงทุนต่อได้เลยไม่สะดุด
👉 รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://finno.me/guru-port-bottomliner
👉สมัครเลย คลิก https://finno.me/bottomliner
*คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
.
BottomLiner