ETF ต่างจาก หุ้นรายตัวหรือกองทุนอย่างไร
หลายคนน่าจะเคยได้ยินการลงทุนผ่าน ETF มาบ้างแล้ว แต่อาจจะยังสับสนถึงความแตกต่างในการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวม
.
ETF คืออะไร?
ETF หรือ Exchange Traded Fund คล้ายกับกองทุนรวมที่มีนโยบายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีหรือสินทรัพย์ที่กองทุนใช้อ้างอิง แต่แตกต่างจากกองทุนทั่วไปคือเราสามารถซื้อขาย ETF ได้ Real-Time เหมือนหุ้นตัวหนึ่งผ่านในตลาดหลักทรัพย์ และบริหารจัดการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.)
.
จุดเด่นของ ETF
1. ซื้อ-ขาย Real Time เหมือนกับหุ้นตัวหนึ่ง เลือกราคาที่อยากซื้อและขายได้
2. ค่าธรรมเนียมถูก เพราะค่าธรรมเนียมคิดเท่ากับซื้อขายหุ้น
3. ใช้เงินลงทุนน้อยก็สามารถกระจายความเสี่ยงได้ เช่น ลงทุนใน ETF ที่อ้างอิงตามดัชนี SET50 ก็เปรียบเหมือนว่าเราได้ซื้อหุ้น 50 ตัว
4. กำไรที่ได้จากการซื้อขาย ไม่ต้องเสียภาษี
5. มีผู้ดูแลสภาพคล่อง หรือที่เรียกว่า Market Maker ทำให้ราคาซื้อขายสอดคล้องกับการขึ้นลงของดัชนีอ้างอิงอยู่เสมอ
.
ผลตอบแทนจากการลงทุนใน ETF
– กำไรจากส่วนต่างของราคา (Capital Gain)
– เงินปันผล (Dividend) ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลขึ้นอยู่กับนโยบายของ ETF ที่ระบุเงื่อนไขไว้
.
ประเภทของ ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มี 5 ประเภท คือ
1. Equity ETF / Index ETF: อ้างอิงดัชนีราคาหุ้นในประเทศ เช่น 1DIV, BMSCG, BMSCITH, BSET100, TDEX
2. Sector ETF: อ้างอิงดัชนีราคาหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ EBANK, ENGY, ENY
3. Foreign ETF: อ้างอิงดัชนีราคาหุ้นต่างประเทศ ได้แก่ CHINA, UHERO
4. Gold ETF: อ้างอิงดัชนีราคาทองคำ ได้แก่ GLD
5. Bond ETF: อ้างอิงดัชนีราคาตราสารหนี้ ได้แก่ ABFTH
.
#ความแตกต่างระหว่าง ETF กับ หุ้น
– การซื้อหุ้นเป็นการลงทุนในบริษัทฯ เดียวเท่านั้น แต่การซื้อ ETF จะนำเงินลงทุนของเราไปกระจายซื้อทุกหลักทรัพย์หรือในสินทรัพย์ที่ ETF อ้างอิงตามน้ำหนักของดัชนี
– ETF จะมีผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) คอยทำหน้าที่เสนอราคาซื้อขาย (Bid-Offer) ระหว่างวัน เพื่อให้ราคาซื้อขายใกล้เคียงกับการขึ้นลงของดัชนีอ้างอิงอยู่เสมอ แต่หุ้นจะไม่มีผู้ดูแลสภาพคล่องให้ ราคาหุ้นจะขึ้นอยู่กับความต้องการซื้อและความต้องการขายของนักลงทุนล้วนๆ
.
#ความแตกต่างระหว่าง ETF กับ กองทุน
– ค่าใช้จ่ายในการซื้อขาย ETF ต่ำกว่ากองทุนรวมทั่วไป
– ETF จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงเหมือนกับซื้อขายหุ้นตัวหนึ่ง เราสมารถซื้อขายได้แบบ Real-Time ในเวลาทำการของตลาดหุ้น แต่กองทุนรวมจะซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) โดยซื้อขายได้ตามเวลาที่ บลจ. กำหนด และต้องรอลุ้นราคา NAV ณ สิ้นวัน
– จำนวนขั้นต่ำการซื้อขายของ ETF จะเหมือนกับหุ้น คือ ลงทุนเป็น Board lot ขั้นต่ำ 100 หน่วย แต่กองทุนรวมจะระบุจำนวนเงินลงทุน โดยขั้นต่ำการซื้อขายขึ้นอยู่กับแต่ละกองทุนนั้นๆ
.
BottomLiner
#ETF #กองทุน #กองทุนรวม #ลงทุน #การเงิน #เศรษฐกิจ #ภาษี