สรุปมุมมองของ Howard Marks เขามองว่านักลงทุนจำนวนมากขายหุ้นเร็วเกินไป
.
นักลงทุนส่วนมากขายหุ้นเพราะว่าเมื่อหุ้นที่เขาลงทุนราคาขึ้น เขากลัวมากว่ากำไรนั้นจะหายไป เลยรีบชิงขายหุ้นเพื่อเอากำไรมาก่อน ซึ่ง Howard Marks เชื่อว่าการขายหุ้นโดนเหตุผลแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ นักลงทุนควรดูที่ปัจจัยพื้นฐานของกิจการและราคาที่ควรจะเป็นของสินทรัพย์นั้นมากกว่าราคาที่ขึ้นลง
.
และเขาเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดอย่างมากที่นักลงทุนมองว่า Realised Gain เป็นสิ่งที่ได้มาแน่นอนมากกว่า Unrealised Gain เนื่องจากเงินที่นักลงทุนได้ขายไป ส่วนใหญ่ก็จะนำกลับมาลงทุนต่ออยู่ดี หมายความว่าทั้งเงินต้นและกำไรที่ได้มานั้นก็จะกลับมาอยู่ในสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆอีกครั้ง
.
ยิ่งไปกว่านั้น เหนือกว่าการขายหุ้นเพียงเพราะว่าราคาหุ้นมันขึ้นแล้ว การขายหุ้นเพียงเพราะราคาหุ้นลงนั้นแย่ซะยิ่งกว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ถูกสอนว่าให้ “ซื้อต่ำ ขายสูง” แต่ในความเป็นจริงคนเรามักจะอยากขายหุ้นยิ่งเวลาเห็นราคาหุ้นลง โดยที่พวกเขากลัวว่าราคาหุ้นจะลงมากไปกว่านี้อีก ซึ่ง Howard Marks ได้กว่าว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดมาก โดยการกระทำแบบนี้จะสร้างโอกาศให้นักลงทุนคนอื่นซื้อหุ้นในราคาที่ถูกนั่นเอง
.
และอีกเหตุผลนึงที่นักลงทุนส่วนใหญ่ขายหุ้นเป็นเพราะว่าเขาเชื่อมั่นว่าเขาสามารถที่คาดเดาตลาดได้ ทำให้เกิดการขายหุ้นเมื่อเขาคิดว่าหุ้นนั้นมันกำลังจะลงอีก แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันมีนักลงทุนน้อยมากที่สามารถกำไรจากการคาดเดาตลาด
.
มีหนึ่งปรัชญาการลงทุนที่ Howard Marks นั่นชอบมากคือ “the discipline of relative selection”
การขายหุ้นควรตามมาด้วยคำถามต่างๆมากมายตามมา เช่น เงินลงทุนที่ขายไปจะเอาไปทำอะไรต่อ? มีแผนที่จะลงทุนในหุ้นตัวอื่นหรือไม่หรือจะถือเงินสด? แล้วถ้าถือเงินสด ทำไมมันถึงดีกว่าหุ้นที่เราได้ลงทุนไปอยู่แล้ว? เป็นต้น
.
แล้วถ้านักลงทุนไม่ควรขายหุ้นเพียงเพราะว่าราคาหุ้นมันขึ้นหรือลง? แล้วนักลงทุนควรขายตอนไหนหล่ะ??
โดย Howard Marks ได้บอกว่าการขายหุ้นควรมาจากปัจจัยพื้นฐานของกิจการ การวิเคราะห์ตัวเลขทางการเงินซะมากกว่า ซึ่งถ้าเราขายหุ้นที่ได้ประโยชน์ในเทรนด์ระยะยาวเพียงเพราะว่าราคาขึ้นลงหรือเป็นเพราะความกลัวต่างๆในระยะสั้น เราจะไม่ได้ประโยชน์จากการลงทุนนั้นอย่างเต็มที่เลย
.
BottomLiner