หลังเกิดโควิดและสงครามการค้าสหรัฐ-จีน สินค้าหลายอย่างขาดแคลนหรือถูกยกมาเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง ทำให้รัฐบาลสหรัฐเห็นปัญหาของตัวเอง
ไฮไลท์ช่วงที่ผ่านมาคือ semiconductor หรือชิปที่ขาดแคลนอย่างหนัก ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกต้องลดกำลังการผลิตลงเพราะไม่มีวัตถุดิบเพียงพอ ลามไปยันชิปที่ใช้ในมือถือหรือ Data Center ที่ไม่มีสินค้าพอขาย รวมไปถึงเรื่องที่จีนเริ่มขยับเกมส์บังคับให้แร่ rare earth (วัตถุดิบต้นน้ำของชิป) เป็นสินค้าจำกัดการส่งออ
ล่าสุด Biden จึงต้องสั่ง executive order หาจุดอ่อนภาคการผลิตสหรัฐให้เสร็จใน 100 วันของ 4 อุตสาหกรรม ได้แก่ semiconductor, ยา, แบตเตอรี่, แร่ rare earth
ถ้ามองให้ลึกลงไปจะพบว่าทั้ง 4 อุตสาหกรรมเหล่านี้มักมีวัตถุดิบต้นทางมาจากจีน ที่อาจจะถูกยกมาเป็นเครื่องมือต่อรองต่อจากนี้ (เพราะ Biden ไม่ได้มีท่าทีจะยกเลิกคำสั่งแบนสมัย Trump เลย)
นี่อาจเป็นการส่งสัญญานว่า Biden เตรียมบีบจีนหนักๆ ต่อก็เป็นได้
แต่ที่เกิดขึ้นแล้วคือราคาหุ้นกลุ่ม semiconductor โดยเฉพาะผู้ผลิตสหรัฐลอยกันถ้วนหน้า Lattice (NASDAQ: LSCC) +7.6%, Lam research +6% (NASDAQ: LRCX), Applied Materials +5.9% (NASDAQ: AMAT), Micron +4.8% (NASDAQ: MU)
กลุ่มผู้ถือหุ้นชิปรอคอยกันมานานกับนโยบายนี้