Nike อมพระรอด ยอดขายดีกว่าคาด แม้โรงงานถูกสั่งปิด
Nike ได้ประกาศงบไตรมาสล่าสุด มีรายได้ที่ $11.36 billion แทบไม่โตขึ้นเลย เนื่องจากการระบาดไวรัสกระทบการส่งมอบสินค้าเข้าจีนและเอเชีย
.
โดย Nike ได้แบ่งยอดขายออกมาเป็น 4 ภูมิภาค
1. North America คิดเป็น 41% ของรายได้ มีสหรัฐเป็นตลาดใหญ่
2. Europe, Middle East & Africa คิดเป็น 29% ของรายได้
3. Greater China คิดเป็น 17% ของรายได้ ซึ่งจีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุด และมีทั้งโอกาสกับอุปสรรครออยู่อีกมาก
4. Asia Pacific & Latin America คิดเป็น 13% ของรายได้
.
โดยภูมิภาคที่มีการเติบโตมากที่สุดในไตรมาสนี้คือ
North America ที่มียอดขาย +12% YoY
ตามด้วย Europe, Middle East & Africa +6% YoY
แต่ China และ Asia Pacific & Latin America ติดลบ -20% และ -8% YoY ตามลำดับ
.
ซึ่งปัญหาของรายได้ในประเทศจีนเกิดจากซัพพลายที่ขาดหายไป สาเหตุจากที่โรงงานในเวียดนามต้องปิดตัวจากการล็อกดาวน์ขั้นรุนแรงของรัฐบาลท้องถิ่นรวม 10 อาทิตย์
แต่ปัจจุบันทางโรงงานในเวียดนามได้กลับมาดำเนินงานแล้วกว่า 80%
.
ต้องลุ้นว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะไม่ทำให้ถูกสั่งปิดอีก เพราะเวียดนามถือเป็นหนึ่งในประเทศที่กระจายวัคซีนช้ามาก
.
ขณะที่ตลาดจีนเป็นภูมิภาคที่นักลงทุนค่อนข้างให้ความสำคัญและจับตาว่าจะฟื้นตัวกลับมาเมื่อไหร่ เพราะจีนเป็น Growth ที่ใหญ่ที่สุดของ Nike ในอนาคต
.
ซึ่งความขัดแย้งระหว่างรัฐบาล สหรัฐ-จีน เป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดเช่นกัน โดยกระแสชาตินิยมในจีนช่วงหลังรุนแรงขึ้นมาก มีการแบน Nike รุนแรงช่วงที่บริษัทเข้าร่วมกระแสกดดันรัฐบาลจีนเรื่องการกดขี่มุสลิมในซินเจียง
แม้ตอนหลัง Nike จะยอมถอย แต่ยังไม่วายโดนลูกค้าฝั่งตะวันตกสาปส่งว่าสนใจยอดขายในจีนมากกว่าความเป็นธรรม ไม่เหมือนตอนสนับสนุนการประท้วงความเท่าเทียมของคนผิวดำในสหรัฐ
.
#ลุยMetaverse
เพื่อให้เข้ากับเทรนด์ Metaverse ที่กำลังจะมา Nike ได้เข้าไปซื้อกิจการผู้สร้าง Virtual Sneaker ออนไลน์อย่าง “RTFKT” ในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาแต่บริษัทไม่ได้เปิดเผยราคา
ดีลนี้ค่อนข้างน่าสนใจมากเพราะเป็นอีกก้าวนึงของ Nike ที่จะทำให้บริษัทเข้าไปพัฒนาและขายเครื่องแต่งกายในโลกเสมือนได้เร็วยิ่งขึ้น
.
หลังประกาศงบ ราคาหุ้นฟื้นตัวได้เพราะสถานการณ์กำลังการผลิตในเอเชียดีกว่าที่คาด ส่งผลบวกมาดันให้ทั้งรายได้และกำไรเหนือนักวิเคราะห์คาดเล็กน้อย
.
BottomLiner