ทุกการตัดสินใจมีต้นทุนเสมอ และหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่คนมักละเลยคือ “เวลา”
#TimeValue
.
คุณเคยต้องตัดสินใจทางเลือกแบบนี้ไหม?…
ซัก รีด ผ้าเอง หรือ จ้างเขาซัก
เก็บกวาดบ้านเองหรือจ้างแม่บ้าน
ทำกับข้าวกินเอง หรือ ออกไปกินข้างนอก
.
ซึ่งส่วนใหญ่เวลาคิด คนทั่วไปมักจะคิดที่ค่าใช้จ่ายก่อนเสมอ เช่น
บ้านรกจัง จ้างแม่บ้านเสีย 500 แบบนี้เก็บเองดีกว่าไม่เสียเงิน ประหยัดกว่า
.
ในทางหนึ่งก็ใช่ เราประหยัดค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินไปได้ 500
แต่บางทีหากคิดเวลาเป็นมูลค่าอาจจะเปลืองมากกว่าด้วยซ้ำ…..
.
หากเราตีมูลค่าทางเวลาของเราออกมาเป็นเงิน เช่น เราทำเงินได้ เดือนละ 3 หมื่นบาท
เท่ากับเราจะมีค่าตัววันละ 1000 บาท หรือชั่วโมงละ 100 (ถ้าทำงานวันละ 10 ชั่วโมง)
หากเราต้องไปทำกิจกรรมอะไรสักอย่างในวันหยุดแล้วเสียเวลาไปครึ่งวัน แม้เราจะไม่ได้เสียเงินเลยสักบาท แต่จริง ๆ แล้วเราก็ต้องจ่ายต้นทุนเป็นเวลาที่ราว ๆ 500 บาท
.
ดังนั้นหากกลับไปที่ตัวอย่างว่าจ้างแม่บ้านมาเก็บบ้าน 500 ดีไหม หรือเก็บเองดี?
.
จริง ๆ ไม่ได้มีคำตอบตายตัว แต่อยู่ที่ว่าแบบไหนตอบโจทย์ชีวิตเรามากกว่ากัน
หากต้องการเวลา แล้วจ้างแม่บ้าน 500 บาท เรามีเวลาว่างมากขึ้น เมื่อเทียบกับค่าตัวเราแล้วคุ้มค่า
(เช่นค่าตัววันละ 1,000 จ้างแม่บ้านวันละ 500) แบบนี้ก็อาจตอบโจทย์กว่า
แต่หากเราคิดว่าไม่คุ้ม หรือเราไม่ได้ใช้เวลาไปทำอะไรอย่างอื่นอยู่แล้ว การเก็บบ้านเองก็อาจคุ้มค่ากว่า
.
ข้างต้นเป็นการยกตัวอย่างแบบง่าย ๆ
ทีนี้เราลองมายกตัวอย่างที่ยากขึ้น
ไหน ๆ เพจเราก็เป็นเพจเกี่ยวกับการลงทุน
ลองยกตัวอย่างเป็นการลงทุนแล้วกัน
.
บางคนกำลังคิดว่าตัวเองจะ Trade ดีไหม หรือจะซื้อหุ้นเอง หรือถือกองทุนให้จบ ๆ ไปดี
เช่นเคยไม่มีคำตอบที่แน่นอน อยู่ที่นิสัยแต่ละคนเหมาะกับกลยุทธ์แบบไหน
แต่อีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามคือแต่ละกลยุทธ์มีค่าใช้จ่ายเป็นเวลามากขนาดไหน
ถ้าเราลองซื้อกองทุน แทบไม่เสียเวลาเลยในแต่ละเดือน สร้างรายได้เฉลี่ยได้เดือนละ 5,000 บาท
ทำการบ้านเองเฉลี่ยวันละ 2 ชม. (60 ชม.ต่อเดือน)
เพื่อซื้อหุ้นรายตัวทำให้สร้างผลตอบแทนได้เฉลี่ยเดือนละ 7,000
มูลค่าของ 60 ชั่วโมงที่เราเสียไปคือ (ผลตอบแทนส่วนต่างระหว่างซื้อกองทุนกับบริหารเอง 2000 / 60 = 33.3 )
หรือพูดอีกมุมคือ เรามีค่าตัวชั่วโมงละ 33.3 บาทในการทำการบ้านแต่ละชั่วโมง
.
ถ้าสมมุติเราเทรด แล้วได้เดือนละ 15,000 แบบนี้จะชัดเลยว่ารายได้สูงกว่าการไปซื้อกองทุนเยอะ
แต่ถ้าเราต้องเสียวันละ 8 ชั่วโมง
เราจะคิดได้ว่า เราจะได้ค่าตัวจากการเทรดประมาณชั่วโมงละ 62 บาท
.
เราต้องกลับมาถามตัวเองว่าการที่เราได้ผลตอบแทนต่อชั่วโมง/ วัน เท่านี้คุ้มค่าไหม หรือเรามีวิธีอื่นที่ทำรายได้ ได้ดีกว่านี้ก็อาจจะเลือกทางอื่นที่ทำให้พอร์ตลงทุนโตได้
.
หรือจะมีวิธีไหนไหมที่ทำให้เราใช้เวลาต่อวันน้อยลง แล้วให้ผลตอบแทนมากขึ้นได้ เช่น ช่วยกันทำการบ้านกับเพื่อน หรือมีทีมช่วยทำ research
.
#TieIn
ถ้าหากคุณเหนื่อยทำการบ้านเอง อยากประหยัดค่าใช้จ่ายทางเวลา ก็สามารถมาสมัคร Exclusive ของเราได้
เพราะเราเน้นทำให้นักลงทุนประหยัดเวลาในแต่ละวันลงให้มากที่สุด เรามีทีม research ค่อยติดตามเรื่องต่าง ๆ คิดออกมาแล้วเดือนละ 250 ตกวันละ 8.3 บาท มันคุ้มกว่าเป็นไหน ๆ
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ >> https://www.facebook.com/bottomlinerglobal/posts/pfbid02kQRnf1XedtaweHTCy4VLnGqXxV6B7hSqhdc9xKG6iUXgUhVsYHyvB2a7nisJNtSml
.
กลับมาต่อกัน สรุปคือจริง ๆ ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของเรา บางทีคำนวนออกมาแล้วไม่คุ้มเลยที่จะทำต่อ หากคิดในแง่ของผลตอบแทนเป็นหลัก แต่หากเรารวมความรู้ ประสบการณ์ที่เราได้รับด้วย
สิ่งเหล่านี้มักจะมีค่ากว่าเสมอ หรือบางครั้งอาจจะประเมินมุลค่าไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
.
ดังนั้นทุกครั้งที่ตัดสินใจสิ่งต่าง ๆ อย่าลืมยกประเด็นเหล่านี้มาคิดด้วยนะครับ
เพื่อให้การตัดสินใจของเราประสิทธิภาพมากที่สุด
.
ปล.มูลค่าเวลาของเราจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามความมั่งคั่งและรายได้ของเรา ดังนั้นการฝึกคิดแบบนี้ไว้ ทำให้ในอนาคตเมื่อความมั่งคั่งของเราสูงขึ้น เราจะสามารถเลือกสิ่งที่ดีและเหมาะกับเราจริง ๆ ได้เสมอ
.
Time is everything we have and don’t
เพราะเราทุกคนมีเวลาและไม่มีเวลาในขณะเดียวกัน
.
BottomLiner