มารู้จัก Call Option กลยุทธ์การเพิ่มผลตอบแทนและลดความเสี่ยงให้พอร์ต
#BTLOptionsSeries
หลายคนบอกว่า Option เสี่ยง แต่ในวันนี้ เราขอพูดว่าหากคุณมีความรู้ความสามารถ แล้วไม่ใช้ Option ต่างหาก เสี่ยงมากกว่า หากคุณแม่น direction ก็จะเป็นการลงทุนแบบ เสี่ยงน้อยได้มาก
.
Bottomliner จะพามารู้จักการใช้ Call Option (แทงว่าจะขึ้น) ที่สามารถทำให้ผลตอบแทนของพอร์ตเพิ่มขึ้น ในความเสี่ยงที่จำกัด แต่หากใช้ไม่เป็น ก็จะเป็นการเสี่ยงมากไป
.
Option คืออะไร?? คือตราสารอนุพันธ์แสดงสิทธิ์ในการซื้อหุ้น … อธิบายให้เข้าใจ ง่ายๆคือ แทนที่เราจะซื้อหุ้น A ตรงๆ เราจะไปซื้อ กระดาษใบหนึ่ง ซึ่งเป็นสัญญา ในการเข้าซื้อหุ้น ที่ราคา X บาทแทน โดย A คือ Underlying ของ Option นั้น และ X คือราคาใช้สิทธิ์ (Exercise Price)
.
แล้วเราจะวุ่นวายแบบนี้ไปทำไม? ก็เพราะ คุณลักษณะของมัน เอื้อให้เราลงทุนแบบ limited loss, unlimited profit ซึ่งเป็นข้อดีมากๆ
.
ตัวอย่างเช่น ในเคสที่เราซื้อหุ้น Apple 100 หุ้น ที่ราคา $170 = ต้องลงเงิน $17,000 และราคาหุ้นขึ้นไปถึง $180 หมายความว่าเราจะได้กำไร $1,000 (+5.8%) ถ้าราคาขึ้นไปถึง $200 (+17.6%) ก็จะกำไร $3,000 แต่เราต้องใช้เงินลงทุนไปมากถึง $17,000
.
ในขณะเดียวกันถ้าเกิดราคาร่วงไปถึง $160 และ $140 ก็จะขาดทุน -$1000, -$3000 เช่นกัน ซึ่งการลงทุนนี้อาจเป็นสัดส่วนในพอร์ตที่เยอะ ทำให้พอร์ตมีความเสี่ยงสูง
.
ตรงนี้ถ้าเราใช้ Call Option จะทำให้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า เนื่องจากใช้เงินลงทุนที่น้อยกว่า แต่ยังสร้างผลกำไรได้ดี แต่มีเงื่อนไขสำคัญมากๆ คือ เราต้องรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ คือคิดว่าจะขึ้น แล้วขึ้นไปเท่าไหร่ และสำคัญมากคือ ในเวลากี่วัน กี่เดือน !!!!
.
ตัวอย่างหุ้น Apple เหมือนกัน ถ้าเราไปซื้อสัญญา Call Option 2 เดือน ที่ราคาใช้สิทธิ (Strike Price) $170 โดยสัญญานั้นมูลค่า $7.7ต่อหุ้น (ราคาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย))
.
เมื่อเราซื้อสัญญานั้น เราจะใช้เงินลงทุนเพียง $770 (หุ้น US 1 สัญญา = 100 หุ้น ดังนั้น ต้องจ่ายเงิน $7.7 x 100) และเมื่อวันครบอายุสัญญาราคาหุ้นขึ้นไปถึง $200 ถ้าเราใช้สิทธิซื้อที่ราคา Strike Price จะทำให้ได้กำไร (($30-$7.7) x 100หุ้น) = $2,230 แต่ถ้าร่วงลงไป $140 ซึ่งเราจะไม่ใช้สิทธิซื้อหุ้น ทำให้เสียแค่ค่า Option ที่ $770 แทนไม่ได้ขาดทุน $3000 เหมือนซื้อหุ้น ตรงนี้ทำให้เราควบคุมการขาดทุนให้น้อยลงได้
.
แต่หากเวลาผ่านไป แล้วมันอยู่ที่เดิม $170 เงิน $7.7 เราก็จะไร้ค่า หรือถ้าขึ้นแต่ไม่เกิน 170+7.7 เช่นจบที่ 175 เราก็ ได้เงิน 175-170 = 5 แต่ลงทุนไป 7.7 รวมขาดทุน -2.7 อยู่ดี
.
.
Tips & Trick 1 !!!
ปกติเราจะไม่ถือสัญญาจนหมดอายุกันหรอกครับ อย่างน้อยๆ ถ้าเป็นการลงทุนหลักหลายเดือน เราจะไม่ถือสัญญาใน 30 วันสุดท้ายกัน เราจะขายกันก่อน เพราะเราจะเสียค่า Time Decay เยอะ สำหรับมือใหม่ ท่องไปเลยครับ อย่าเล่นสัญญาสั้นเกิน 2 เดือน และอย่าถือสัญญาที่เหลือไม่ถึง 1 เดือน
.
.
Tips & Trick 2 !!
.
เมื่อเรารู้แล้วว่ามันมี ค่าเวลา แล้วถ้าเราซื้อปุ้บ พรุ่งนี้ apple จาก 170 ไป 200 เลย … แล้วเราขายทันที จะเป็นอย่างไร?? คำตอบคือ ราคา 7.7 ที่จ่ายไป จะพุ่งขึ้นไปครับ แต่ไม่ได้ขึ้น 30 นะ อาจจะขึ้นไป 25 เป็น 32.7 (ต้องเข้าใจ delta gamma) สำหรับมือใหม่ เรามองข้ามเรื่องนี้ได้เลย คิดแค่ซื้อแล้วหุ้นขึ้นไหม ก็พอ และซื้อให้ซื้อต่ำลงมา 1- 2 strike เช่น ราคาอยู่ 170 ซื้อ 160, 165) ป้องกันซื้อแล้วมันจบที่เดิม จะเจ็บหนัก
.
ดังนั้นหากการเทรดสัญญา Option จะเป็นการจับจังหวะตลาด เช่น หุ้นประกาศงบ วันออกนโยบายใหม่ วันประกาศเรื่องสำคัญ เป็นต้น ซึ่งวันสำคัญที่เกี่ยวกับหุ้นพวกนี้จะทำให้ราคาหุ้นขึ้นลงแรง(สวิงจาก 5-20% ได้เลย) และเราสามารถใช้โอกาสนี้สร้างผลกำไรกับมันได้ Bottomliner เรียกมันว่า Event Play
.
ในเคสที่ปกติ Bottomliner จะใช้ (แต่อาจจะเป็น extreme ของหลายๆคน) ก็คือ การเก็งงบการเงินของหุ้นว่าจะขึ้นหรือลง และเคาะซื้อสัญญา Option ก่อนประกาศงบ
.
ซึ่งถ้าในเคสเดียวกันคือหุ้น Apple ประกาศงบ และราคาหุ้นพุ่งขึ้นไป $200 ภายใน 1 วัน ราคาสัญญาของเราจาก $7.7 อาจขึ้นไปได้ถึง $32 กำไร 4 เท่า (กำไร $2,430) แต่ถ้าพลาดราคาเหลือ $140 ก็ขาดทุนเพียง $770 จะเห็นว่า Risk Reward Ratio นั้นถือว่าคุ้มค่ากว่าถือหุ้นเปล่าๆ
.
หรือถ้าเรามีถือหุ้น Apple อยู่ในพอร์ตและมองว่าจะขึ้นหลังประกาศงบ ก็ซื้อ Call Option 1% ของพอร์ต เพิ่มเข้าไป อาจทำให้ได้กำไร 3-4% ของพอร์ต แต่ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
.
การใช้ Option ถ้าเรารู้ว่า จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น หุ้นจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์แค่ไหน และคนคิดเห็นยังไงกับหุ้นตัวนั้นอยู่ จะทำให้จังหวะเวลาในการซื้อ Option ได้ดียิ่งขึ้น ไม่ต้องแช่สัญญาเสียค่า Time Decay นานเกินไป
.
แต่หากคุณไม่ใช่ผู้ซื้อ Call Option …. แต่เป็น ผู้ขาย Call Option
มันจะกลายเป็น Income Strategy แทน !!! เช่นได้ yield 6% ใน 3 เดือน เราว่ามาคุยกันต่อในบทความซีรีย์ #BTLOptionsSeries ในตอนถัดๆไป ครับ
.
Bottomliner