อยากจะชวน ให้มาเทรด option กันครับ เพราะถ้าใช้เป็น …..
“Option” ถึงเป็นสิ่งที่ไม่ได้เสี่ยงอย่างที่หลายคนคิด
รวมถึงเปิดโอกาสให้การลงทุนมหาศาล
มีคนทักมาถามหลังไมค์เยอะมากครับ
ในทำนอง…
Option ไม่เสี่ยงไปหรอครับ เล่นเสียครั้งหนึ่งไม่เหลืออะไรเลย ไม่ต่างอะไรจากเล่นพนัน แบบนี้ผมถือหุ้นไม่ดีกว่าหรอครับ
ในความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้นครับ มาดูตัวอย่างกัน สำหรับ plain vanilla call, put
+200%, +150%, -50%, +120%, +100%, +10%, -70%, – 20%, -5% นี่คือสถิติคร่าวๆ ที่ได้จากการเทรดเก็งงบด้วย option ช่วงงบออกที่ผ่านมาส่วนหนึ่ง
แบบเทรดธรรมดา ช่วงปีนี้ เทรดใหญ่ๆ +400% -100% ก็มี หรือปีก่อน +1000% ก็มี และ -100% ก็มี
จะเห็นได้ว่า risk/reward มันน่าสนใจ เพราะเสียไม่เกิน 100% แต่ได้ เกิน 100% เสีย 100% ก็คือ ค่า options เสียหมด และเวลาเราซื้อ options กัน ก็ซื้อกันไม่กี่ % เท่านั้น
การขาดทุน -100% เกิดขึ้นเมื่อคุณผิดทางและปล่อยจนหมดอายุ หลายครั้งที่ผิดทาง -90% แต่ปล่อยไว้ อยู่ดีๆกำไรเฉย มีกลับมาบวกเป็นร้อย ก็มี อย่าง ณ วันที่โพส มีเดาผิด เปิดตลาดหุ้นร่วงไป 10% ขาดทุนไป 40% 50% ได้ แล้วค่อยเด้งกลับมา เหลือ -12% เราก็เพียงแค่รอ เพราะวันนั้นมู้ดตลาดดี กำลังรีบาวแรง
มันไม่ใช่พลาดครั้งหนึ่งแล้วเหลือศูนย์เสมอ อาจจะ -30%, -50%,-70% หรืออาจจะถึง -100% เลยก็ได้ เพราะมันมีค่าเวลาอยู่ ส่วนเวลากำไร ในหลายๆครั้ง หากใช้กลยุทธ์ซับซ้อนขึ้น จะพบว่า เฮ้ยมันได้น้อยกว่าที่คิด
จนพวกฝรั่งถึงขั้นแนะนำกันว่า ถ้าอยากศึกษา options ให้ไปเรียน อย่าหัดเอง ค่าครูมันแพงกว่าค่าคอร์สมากๆ
ความผิดพลาดแรก เช่น
การใช้งานจริงไม่มีใครซื้อ Option ที่วันจะหมดอายุพรุ่งนี้ครับ (ยกเว้นแต่คุณอยากเล่นพนัน)
เรามักซื้อ-ขายกันอย่างน้อยให้เวลาเหลือซัก 1 เดือนเป็นอย่างต่ำ (สำหรับฝั่งผู้ซื้อ)
ดังนั้นกราฟที่ออกมาจะไม่ได้เป็นเหลี่ยม ๆ แบบที่หลาย ๆ คนเข้าใจตามทฤษฏี (ดูภาพปกบทความประกอบครับ)
แต่ต้องเป็นลักษณะเส้นโค้งซึ่งวิ่งขนานไปกับทฤษฏี ซึ่งมีความหมายว่า
แม้เราจะพลาด เราจะไม่ได้ขาดทุนเปรี้ยงเดียวจบแบบที่ทฤษฏีบอก ด้วยเพราะสัญญายังไม่หมดอายุ ทำให้ Option ยังมีมูลค่าในตัวเองก่อนจะค่อย ๆ ลดลงไปตามราคาและอายุที่น้อยลง
.
ทำให้ในโลกของความจริงเวลาขาดทุนมันไม่ได้ขนาดนั้น และยังพอเวลาพอที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้
.
อีกมุมหนึ่ง เวลาพลาดเต็มที่เราเสียมากสุดแค่ -100% แต่เวลาเราได้เราได้หลายร้อยเปอร์เซ็นต์ และเวลาลงทุน ต้องรู้จักคำนวนเงินต้นก่อน แบ่งเงินแค่ส่วนหนึ่งมาใช้ เช่น แทนที่จะซื้อหุ้นตัวนี้ 10% เราคำนวน premium ดูก่อน คือ 10% ดังนั้น ลงทุน ใช้เงินแค่ 1% แทน เราขาดทุนเต็มที่ก็ 1% แต่เราสามารถทำให้พอร์ตโตขึ้นจากการทายถูกของเราครั้งหนึ่ง 2-5% ได้ หรือหากไม่โลภ เอากำไรทีละ 20 30% ก็ได้ไม่ยากเกินไปครับ
แค่จำเป็นต้องรู้เกร็ดเล็กน้อย เพื่อให้ใช้งานได้ถูกต้อง และเข้าใจจุดได้เปรียบของมัน แต่เล่าผ่านบทความวันนี้ไม่จบแน่ครับ ใครที่สนใจ เดี๋ยวเราไปเจอกันในคอร์ส Option Foundation วันที่ 6 ที่จะถึงนี้
คำว่า Foundation ไม่ได้มาสอนทฤษฎี สอนพื้นฐานอะไร แต่สอนวิธีเลือก Option จริงๆ เพราะส่วนมาก เลือกกันผิด
ถ้าคุณตอบคำถาม 2 นี้ไม่ได้ แปลว่าคุณยังไม่ถึงแก่น ที่จะใช้มัน
1 คาดว่าหุ้น A ราคา 100 จะขึ้น 20% ในอีก 2 เดือนข้างหน้า และคิดว่ามันจะย่อมาสักก่อน 5% ในช่วงสั้น และรับขาดทุนได้ 30% จากการถือ option ไม่งั้นจะหัวใจวาย แต่ว่าจะต้องไปบวชแล้วต้องกดซื้อตั้งแต่ตอนนี้ ไม่มีเวลารอ ควร Long Call ที่ strike เท่าไหร่ อายุเท่าไหร่ และขายวันไหน (โดยใช้แค่ long call อย่างเดียว)
2 คาดว่าหุ้น B ราคา 100 จะขึ้น 5% ใน อีก 20 วันข้างหน้า แต่คุณก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เพราะกลัว FED รู้แต่ถ้ามันตกไป 10% คุณจะซื้อแน่ๆ ควรทำอะไร? Strike เท่าไหร่ อายุ เท่าไหร่ และขายวันไหน
อยากรู้ แต่ตอบไม่ได้ ในคลาสมีเฉลยครับ ลองหาในเน็ตดูก็ได้นะ เพราะในชีวิตจริงจะเจอแต่อะไรแบบนี้แหละเป็นขั้นต่ำ และยังสามารถผสมผสานได้อีก (แต่จะสอนเฉพาะใน bootcamp เพราะมันยาก)
ตอนนี้ Final Call อยู่ครับกับ Option Foundation “
เพียงแค่ช่วย PR กันบ้าง ลดเพิ่ม 1000 เหลือเพียงราคา 8,900 ซึ่งเราให้ราคาพิเศษเฉพาะช่วง PR คอร์สใหม่เท่านั้น เรียนออนไลน์ ถามตอบในกลุ่มปิด
สนใจสามารถดูรายละเอียดและสมัครผ่านลิ้งค์ด้านล่างได้เลยครับ
https://forms.gle/bqcvJHhVdQfjDZaw5
.
BottomLiner – บทสรุปการลงทุน