เบื้องหลัง HAVAL SUV และ ORA Good Cat ด้วยแผนการตลาด “เราให้มากกว่ารถญี่ปุ่น”
“Ora Good Cat”, “Haval” เชื่อว่าหลายคนต้องได้ยินแบรนด์รถยนต์สองยี่ห้อนี้ผ่านหูกันมาบ้างในฐานะยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกๆที่ได้เข้ามาทำการตลาดในไทย และรถยนต์ SUV ที่ได้รับความสนใจอย่างล้มหลามจากแฟนรถยนต์ทั่วประเทศ
.
แต่เรารู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วแบรนด์รถยนต์สองยี่ห้อนี้เป็นใครมาจากไหน? ในบทความนี้เราจะพามาทำความรู้จัก “Great Wall Motor” บริษัทแม่ของ Ora Good Cat, Haval ไปพร้อมกัน!!
.
#Great Wall Motor ทำอะไร?
Great Wall Motor เป็นบริษัทรถยนต์เอกชนสัญชาติจีนที่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1984 (38 ปีที่แล้ว) มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เป่าติ้ง มณฑลเหอเป่ย
ซึ่งที่มาของชื่อ Great Wall มาจากคำว่า Great Wall of China หรือกำแพงเมืองจีนที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
.
เริ่มแรกบริษัทมีความเชี่ยวชาญในการผลิตรถบรรทุกที่เน้นความทนทานในการใช้งานเป็นหลัก และได้ต่อ ยอดชื่อเสียงไปผลิตรถกระบะ Pickup จนสามารถตีตลาดได้สำเร็จและได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ใช้งาน
หลังจากนั้น Great Wall Motor จึงได้แตกไลน์การผลิตไปสู่กลุ่มแมสมากขึ้น ด้วยการขายรถยนต์ Sedan และรถยนต์ SUV ที่เราเห็นกันจนถึงปัจจุบัน
.
Great Wall Motor ได้เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อปลายปี 2003 ในรหัส HKG: 2333
และยังได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ในปี 2011 ในรหัส SHA: 601633
ซึ่งปัจจุบัน Great Wall Motor เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกเลยก็ว่าได้ โดยเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะเกิดสถานการณ์วิกฤตไวรัสแต่บริษัทก็ยังสามารถขายรถยนต์ไปได้กว่า 1.1 ล้านคันทั่วโลก รวมถึงได้เริ่มตีตลาดไทยผ่านการซื้อโรงงานของ Chevrolet ที่ถอนตัวกลับสหรัฐ
.
#Great Wall Motor มีแบรนด์อะไรในเครือบ้าง?
1. HAVAL (ขายในไทยแล้ว)
แบรนด์รถยนต์ที่เน้นเฉพาะรถ SUV ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2013
.
2. ORA (ขายในไทยแล้ว)
แบรนด์รถยนต์ที่เน้นผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2018
.
3. WEY (ยังไม่ขายในไทย)
แบรนด์รถยนต์ SUV แบบพรีเมี่ยมที่ก่อตั้งในปี 2016 ตามชื่อผู้ก่อตั้งบริษัท “Jack Wey”
.
4. GMW PICKUP (ยังไม่ขายในไทย)
แบรนด์รถยนต์ที่เน้นผลิตรถกระบะโดยเฉพาะ ประกาศแยกตัวออกมาในปี 2018
.
5. TANK (ยังไม่ขายในไทย)
แบรนด์รถยนต์ที่เน้นผลิตรถยต์แบบ Off Road (รถยนต์ที่นำไปผจญภัยในทางทุรกันดารโดยเฉพาะ)
.
จะเห็นได้ว่ารถยนต์แต่ละแบรนด์ของ Great Wall Motor จะแบ่งแยกรถแต่ละประเภทได้อย่างชัดเจน แตกต่างจากรถยนต์แบรนด์อื่นๆที่ภายในหนึ่งแบรนด์จะมีทั้งรถเอสยูวี รถซีดาน และรถกระบะรวมอยู่ด้วยกัน
.
รายได้และกำไรของ Great Wall Motor ที่ผ่านมา
ปี 2018 มีรายได้ 110,209 ล้านฮ่องกงดอลลาร์ กำไร 5,928 ล้านฮ่องกงดอลลาร์
ปี 2019 มีรายได้ 104,975 ล้านฮ่องกงดอลลาร์ กำไร 5,030 ล้านฮ่องกงดอลลาร์
ปี 2020 มีรายได้ 120,409 ล้านฮ่องกงดอลลาร์ กำไร 6,365 ล้านฮ่องกงดอลลาร์
.
ยอดส่งมอบรถยนต์ของ Great Wall Motor ในครึ่งปีแรกของปี 2021 บริษัทได้ส่งมอบรถยนต์ไปกว่า 6 แสนคัน เป็นอันดับที่ 8 ในจีน และมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 4.8% ของตลาดรถยนต์จีน
ซึ่งรถยนต์ที่ขายดีและสร้างชื่อเสียงให้กับ Great Wall Motor ก็คือรุ่น Haval H6 เป็นรถยนต์ที่ครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ของตลาด SUV ในจีนมาหลายปีซ้อน
.
#เติบโตในจีนและขยายสู่ทั่วทุกมุมโลก
ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในจีนเพียงอย่างเดียว ปัจจุบัน Great Wall Motor ได้ขยายกำลังการผลิตและจำหน่ายรถยนต์รุ่นต่างๆของบริษัทสู่ประเทศอื่นๆในโลกด้วยเหมือนกัน โดยบริษัทมีโรงงานที่ดำเนินการมากกว่า 14 แห่ง (ยังไม่รวมอินเดียและไทย) ตั้งอยู่ภายในจีน 9 แห่ง และต่างประเทศอีก 5 แห่ง (ยอดการส่งออกของบริษัทคิดเป็นประมาณ 10% ของยอดขาย)
.
ซึ่งโรงงานที่จังหวัดระยองในไทย (Great Wall Motor ซื้อโรงงานจาก General Motor เจ้าของ Chevrolet) ถือเป็นโรงงานการผลิตรถยนต์แบบเต็มรูปแบบในต่างประเทศแห่งที่ 3 ของบริษัทรองจากโรงงานในประเทศรัสเซียและอินเดีย
.
ถึงแม้ว่าบริษัทจะยังทำการตลาดรถยนต์อยู่เพียงแค่ 3 รุ่นเท่านั้นในไทย คือ Haval H6, Haval Jolion, และ Ora Good Cat แต่ไทยก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ Great Wall Motor สามารถตีตลาดและเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จมากเลยทีเดียว ด้วยการนำเสนอ Option ที่ติดมากับรถยนต์แบบจัดหนักจัดเต็มกว่ารถใน segment เดียวกันของยี่ห้ออื่น โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆในไทยร่วม 9 รุ่นด้วยกันในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
.
(รถป้ายแดงบางยี่ห้อกั้ก Option กันเล็กๆน้อยๆ ซะจนผมสงสัยว่าดึงออกแค่นี้มันจะลดต่นทุนได้ซักกี่บาท ทำเสียความรู้สึก)
.
BottomLiner