ทำไมเนื้อหมูแพงถึงแก้ไม่ได้ง่ายๆ
อย่างแรกต้องรู้ก่อนว่าสาเหตุที่เนื้อหมูแพงมาจาก
.
1. วัตถุดิบอาหารสัตว์ทุกประเภทปรับตัวสูงขึ้น
เช่น ราคาข้าวโพดที่ขึ้นไปราคาสูงสุดในรอบ 10 กว่าปี รวมถึงราคากากถั่วเหลืองและปลายข้าวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน สิ่งนี้ทำให้ผู้เลี้ยงมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นสูงมากเพราะต้นทุนอาหารสัตว์คิดเป็นต้นทุนหลักที่ประมาณ 60-70%
.
2. ราคาน้ำมันสูงขึ้น เป็นต้นทุนค่าขนส่งและต้นทุนทางอ้อมของวัตถุดิบอื่นด้วย
.
3. โรค ASF ในหมูกำลังระบาดหนักในหลายภูมิภาคทั่วโลก
ซึ่งโรคระบาดเป็นเรื่องที่เราจะโฟกัสในโพสนี้ และบอกเลยว่ามันคือสาเหตุหลักที่ทำให้ “ราคาเนื้อหมูแพงแก้ไม่ได้ง่ายๆ”
.
โรค ASF หรือ อหิวาต์แอฟริกาในสุกร เป็นโรคที่สามารถแพร่ไปในหมูทุกเพศทุกวัยได้อย่างรวดเร็วและร้ายแรงถึงชีวิต ไม่ต่างจากโรคระบาดที่คนต้องเจออยู่ตอนนี้
.
แต่โรค ASF จะไม่เป็นอันตรายต่อสู่มนุษย์นะครับ แต่มนุษย์สามารถเป็นพาหะนำเชื้อไปแพร่ใส่หมูได้
รวมถึงด้วยความอึด ถึก ทนของ ASF ทำให้ไวรัสสามารถติดไปกับเสื้อผ้า รองเท้า รถขนส่ง และระบาดไปได้ไกลมากๆ ถึงขนาดที่คาดกันว่าโรค ASF ระบาดหนักในยุโรป มาจากรถจากจีนคันเดียว
.
ช่วงแรกของการระบาดหลายฟาร์มทั่วโลกมีนโยบายคุมเข้มคนงาน โดยใช้ทั้งการกักตัวก่อนทำงาน ไม่ให้นำของใช้ส่วนตัวจากข้างนอกมาใช้ แต่เหมือนจะคุมไม่ค่อยอยู่เพราะทั้งอัตราการระบาดและการเสียชีวิตของโรค ASF สูงมาก เรียกได้ว่าติดตัวเดียวเละทั้งคอก
“ทำให้ผู้เลี้ยงหมูเสี่ยงขาดทุนสูง แม้ราคาเนื้อหมูจะขึ้นมาเยอะก็ยังไม่คุ้มเสี่ยง”
.
และที่สำคัญโรคASF นั้นยังไม่มีวิธีการรักษาหรือวัคซีนป้องกันโรคชนิดนี้ ดังนั้นหากพบหมูในฟาร์มติดเชื้อ ต้องกำจัดหมูทั้งหมดในฟาร์มทันที
.
ขณะที่ข่าวในไทยยังแบ่งเป็น 2 ฝั่งว่ามีโรค ASF ระบาดหรือไม่
ซึ่ง BottomLiner ไม่ได้เลี้ยงหมูคงจะฟันธงให้ไม่ได้ แต่ก็มีผู้ติดตามเพจเราบอกกันมาเรื่อยๆ ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
.
ที่แน่ๆ คนไทยคงต้องทนกินหมูแพงไปอีกซักพัก เงินเฟ้อเคาะประตูดังขึ้นทุกที
.
BottomLiner