7 หนังสือเปลี่ยนเม่าลงทุน สู่ ตัวจริง
7 หนังสือเปลี่ยนเม่าลงทุน สู่ ตัวจริง
บางเล่มง่าย บางเล่มยาก ปน ๆ กันนะ แต่รวม ๆ ทุกเล่มนี้ลิสต์นี้ถือว่าดีมากและอยากให้อ่านสักครั้ง มันฟิน มันดี และให้มุมมองหลาย ๆ อย่างได้ดีมาก
แต่เราขอไม่เรียงลำดับง่ายไปยากนะ เพราะการหาความรู้ลงทุนจริง ๆ มันไม่ได้มีลำดับขั้นแบบนั้น มันเหมือนการต่อจิ๊กซอว์มากกว่า
1. JUST KEEP BUYING : proven ways to save money and build your wealth
#เล่มนี้เหมาะกับมือใหม่ (เล่มนี้ยังไม่มีแปลไทย)
เป็นหนังสือการเงินที่คิดว่าทุกคนควรอ่านสักครั้งในชีวิต โดยรวมถือว่าเป็นหนังสือที่อ่านง่าย อ่านสนุก ไม่ได้พูดลอย ๆ แต่หยิบเอาสถิติมาพูดให้เห็นชัด ๆ เหมาะกับคนที่ลงทุนทั้งแบบ Passive และ Active หรือคนที่กำลังเริ่มศึกษาลงทุนก็ได้
หนังสือจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกันคือ
1.การเก็บสะสมเงิน การออมทรัพย์ต่าง ๆ ยาวไปถึงการวางแผนเกษียณ
2.การลงทุนแบบ 101 ว่าด้วยเรื่องของทำไมต้องลงทุน จัดพอร์ตแบบไหนดี
ไปจนถึงวิธีซื้อ-ขายแบบไม่ Timing Market
ว่าเราควรจะวางแผนซื้อ-ขาย ยังไงดี (โดย DCA ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดที่แนะนำ) ควรดึงเงินมาใช้ยังไงให้พอตลอดชีวิตหลังเกษียณ โดยไม่ต้องปิดพอร์ต
2. BIG DEBT CRISIS
#เล่มนี้ยากถึงยากมาก แต่คุ้มค่าที่จะค่อย ๆ อ่านอย่างละเอียดจนเข้าใจ (มีแปลไทย)
จริง ๆ ของ Ray Dalio 3 เล่ม ดีทั้ง 3 เล่มนะ แต่เล่มนี้เอาไปประยุกต์ใช้ในการลงทุนง่ายสุด
หากจะศึกษาเศรษฐศาสตร์สักเรื่อง เอาแบบที่เอาไปใช้ลงทุน ไม่ได้ไปเป็นนักเศรษฐศาสตร์ อ่านจบตรัสรู้ ตาเห็นธรรมทันที เพราะการลงทุนไม่ได้มีแค่เรื่องที่เราเอาเงินใส่ลงไป เงินทั่วโลกไหลไปมา การกำหนดเศรษฐกิจให้ร้อนแรงให้เย็นลง มันมีกลไก ถ้าเราเข้าใจมัน เราจะลงทุนได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น
3. ONE UP ON WALL STREET
#เล่มนี้เหมาะกับมือใหม่ (มีแปลไทย)
เล่มนี้น่าจะเคยได้ยินคนแนะนำมาหนาหูเลยทีเดียว แต่ก็ตามนั้นเลยยืนยันว่าเป็นอีกเล่มที่ดี อธิบายพื้นฐานได้ครบ โดยเฉพาะ Fundamental และ Mindset เข้าใจง่ายและใช้งานได้จริง
วิธีที่สอนในเล่มนี้ประยุกต์ใช้ได้ยันระดับ ลงทุนจริงจังเลยนะ
4. YOU CAN BE A STOCK MARKET GENIUS
#เล่มนี้ยากปานกลาง (มีแปลไทย)
ชื่อไทย อัจฉริยะหุ้นคุณก็เป็นได้ เหมือนจะเป็นหนังสือให้หลอกให้มือใหม่อ่าน แต่จริง ๆ เนื้อหาค่อนข้างหนักอยู่ เป็นหนังสือที่พูดเรื่อง Case Study การซื้อหุ้นของผู้เขียน (Joel Greenblatt) หรือ คนคิด Magic Formula
แต่รู้หรือไม่ จริง ๆ แล้ว ผลตอบแทนการลงทุนเฉลี่ย 40% ต่อปี ของ Joel มาจากการซื้อหุ้นในแบบ special event play มากกว่า magic formula แล้วเราจะพลาดได้ไงหละ กับหนังสือที่มาเล่าวิธีการซื้อหุ้นของเขา!
5. THE MOST IMPORTANT THING THAT ILLUMINATED
#อ่านยากปานกลาง (มีแปลไทย)
หนังสือเล่มนี้ค่อนข้างพูดภาพรวมเกี่ยวกับความต่างของนักลงทุนทั่วไปกับนักลงทุนที่สามารถเอาชนะตลาดในระยะยาวอย่างยั่งยืนไว้ค่อนข้างครบถ้วน
.
ส่วนตัวคิดว่าเป็นหนังสือที่ดีมากแต่อ่านไม่ง่าย สำหรับนักลงทุนมือใหม่ ต้องมีประสบการณ์ประมาณหนึ่งถึงจะเข้าใจว่าทำไมหนังสือถึงว่าบอกไว้แบบนั้น แต่หากใครที่อยากเป็นนักลงทุนที่จริงจังแล้วเล่มนี้ถือว่าห้ามพลาดมาก ๆ !!!
.
ชอบเล่มนี้ที่ไม่ได้ Bias พูดในมุม VI อย่างเดียว เป็นการเน้นไปเลยว่า Marks พูดในมุมปรัชญาลงทุนของเขานะ (คนอื่นจะมีวิธียังไงก็ไม่ผิด)
ในเล่มก็จะมีมุมมองของนักลงทุนแบบ Growth Investor และ Hybrid Investor เปรียบเทียบอยู่เรื่อย ๆ
หนังสือไม่ได้ตัดสินการลงทุนแนวอื่น ๆ หรือบอกว่าแนวทางที่เขียนในนี้คือ Holy Grail
ที่ทำตามแล้วจะประสบความสำเร็จ
แต่เป็นการเล่าผ่านตัวของ Howard Mark ที่เป็นนักลงทุนและผ่านเหตุการณ์วิกฤตต่าง ๆ มาร่วม ๆ 50 ปี ว่าในมุมมองของเขาที่เป็นสาย VI นั้นเขาเจออะไรมาบ้าง และอะไรคือสิ่งที่เราควรตระหนักรู้เพื่อก้าวไปให้ไกลกว่านักลงทุนทั่วไป
6. FOOLED BY RANDOMNESS: The Hidden Role of Chance in Life and in the Market
#อ่านยากถึงยากมาก (มีแปลไทย)
นับถือใจคนแปลไทยที่แปลเล่มนี้ได้ เพราะเล่มต่างประเทศ อ่ายยากมาก แม้แต่เจ้าของภาษายังปวดหัว
(คนแต่งบอกจงใจ) เป็นหนังสือที่สร้างภูมิคุ้มกันในการลงทุนได้ดี ว่าด้วยเรื่องของโชคที่แฝงตัวอยู๋ในโลกใบนี้ รวมถึงการลงทุนด้วย
ชอบประโยคที่สอนว่า คนที่ประสบความสำเร็จคือคนเก่ง คนที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ คือคนโชคดี
เล่มนี้อ่านยากเพราะส่วนหนึ่งเป็น Case Study ที่ใช้โชคเข้ามาเกี่ยวข้องในหลาย ๆ วงการ เลยทำให้มีศัพท์และเรื่องราวหลากหลายวงการที่ต้องทำความเข้าใจมาก ๆ
7. BUY AND HEDGE : The five Iron Rules for investing over the long term
#อ่านยากถึงยากมาก (ไม่มีแปลไทย)
เล่มนี้จะทำให้เราเห็นมุมมองที่ต่างออกไปในการลงทุน ว่าด้วยเรื่องของการ Hedge (ทำประกัน) ซึ่งทำให้เราลงทุนได้ปลอดภัยมากขึ้น กินอิ่มนอนหลับ ทำกำไรได้ทุกสภาพตลาด แต่ผลตอบแทนดีขึ้นด้วยในระยะยาว ซึ่งอาจฟังดูฝืน ๆ ความเข้าใจคนส่วนใหญ่ แต่ใช่ครับ มันทำได้จริง
โดยเฉพาะหากใครที่ลงทุนในต่างประเทศที่ทำกำไรได้ 2 ทางจะเข้าใจสิ่งนี้ได้มากกว่า ส่วนใครที่ลงทุนแต่ในไทยเล่มนี้อาจข้ามไปก็ได้ เพราะอ่านแล้วค่อนข้างนำไปใช้ในไทยได้ยากครับ
.
#สรุป
อยากสรุปหลังจากแนะนำหนังสือทุกเล่มไป ว่ามันไม่มีหรอกครับ Holy Grail หรือตัวเลขวิเศษอะไรที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในการลงทุนได้ ทุกอย่างที่หนังสือทุกเล่มแนะนำมีจุดบอดและจุดที่ควรนำไปประยุกต์ต่อยอด อยากให้มองว่ามันเป็นวิธีการ วิธีหนึ่งมากกว่ากฏเกณฑ์ที่ทำตามเพื่อประสบความสำเร็จ อยากแนะนำว่าการอ่านหนังสือจะได้ประโยชน์มากขึ้น หากเราสามารถปฏิเสธ เห็นต่างหรือตั้งคำถามถึงสิ่งที่หนังสือบอกได้ เพราะถ้าไม่เป็นแบบนั้น สิ่งที่หนังสือบอกเราก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดตลอดไป แล้วโลกก็จะหยุดอยู่ตรงนี้ โลกดีขึ้นได้เรื่อย ๆ เพราะสิ่งที่มันเคยดีในอดีตเปลี่ยนแปลงไปเป็นสิ่งที่ดีกว่า จากการเห็นต่างและพัฒนาเป็นสิ่งใหม่
.
BottomLiner