พลิกอีกรอบ ! ถ้า Biden เข้าวินจริง โลกลงทุนจะเป็นอย่างไร ?
พลิกอีกรอบ ! ถ้า Biden เข้าวินจริง โลกลงทุนจะเป็นอย่างไร ?
จากเมื่อวานที่ผลนับคะแนนทำให้ Trump เกือบได้ฉลองเป็นประธานาธิบดีต่ออีกสมัย.
แต่โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาโดยง่าย !!!
ล่าสุด Biden กลับมามีคะแนนนำใน 3 รัฐที่เป็น Swing States (คะแนนสูสีกัน) คือ Michigan, Wisconsin, Nevada (แค่นี้ก็เพียงพอให้ชนะแล้ว) ยิ่งไปกว่านั้นอาจได้ Flip ใน Pennsylvania แถมท้ายด้วย !!
ทีเด็ดสำคัญของ Biden คือฐานเสียงเขานิยมโหวตผ่านไปรษณีย์ เพราะกลัวโควิด (แต่ฐานเสียงทรัมป์ไม่กลัว) ส่งผลให้ในช่วงท้ายที่เริ่มนับคะแนนของไปรษณีย์ Biden มาแรงสุดๆ ยิ่งนับยิ่งชนะ
เมื่อวานเราลงโพสต์ไปแล้วว่าถ้าทรัมป์ชนะจะเกิดอะไรขึ้น (พลิกโผอีกครั้ง ทรัมป์มีโอกาสสูงจะครองตำแหน่งต่ออีกสมัย แล้วจะมีผลต่อตลาดหุ้นยังไง ? มาดูกัน !!! https://www.facebook.com/bottomlinerglobal/posts/3985156841499420)
สลับกัน ถ้า Biden ได้เป็นประธานาธิบดีจริงๆ หุ้นกลุ่มไหนจะได้ประโยชน์แทนหละ ?!
แก่นหลักการหาเสียง Biden ไม่ได้ต่างจาก Trump เลย เพราะชูนโยบาย “Buy American” สนับสนุนให้บริษัทสหรัฐย้ายฐานการผลิตกลับประเทศ และขึ้นภาษีลงโทษบริษัทที่ย้ายออกนอกประเทศ เพียงแต่ Biden เพิ่มให้คนผิวดำและกลุ่มอื่นได้ประโยชน์ด้วย ต่างจาก Trump ที่เน้นเฉพาะคนผิวขาว
หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์ก็เหมือนเดิมคือ กลุ่ม Consumption ในประเทศ เช่น Visa, American Express, Home Depot, Costco หรือกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เช่น Sun Communities (NYSE: SUI), Prologis (NYSE: PLD)
ขณะที่กลุ่ม Big Tech FAAG (Facebook, Apple, Amazon, Google) ซึ่งกำลังถูกขู่จากพรรค Democrat จะจับแยกร่าง ลดการผูกขาด
มันอาจไม่เกิดขึ้นจริงหรือไม่เกิดเร็วๆ นี้ เนื่องจาก Biden ไม่มีความจำเป็นต้องเร่งทำ และบริษัทเหล่านี้เกือบทั้งหมดสนับสนุนพรรค Democrat ชัดเจน ทั้งสองฝ่ายอาจเลือกร่วมมือกันเพื่อสนับสนุนบริษัทขนาดเล็กและกลางผ่านแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ ช่วยลดข้อครหาผูกขาดและพรรค Democrat ก็ได้คะแนนเสียงไป (Win-Win ทั้งคู่)
ทางด้านหุ้นพลังงานสะอาดก็อย่าพึ่งดีใจ เพราะถ้า Biden ชนะ ก็ไม่แน่ว่าคุณจะได้สนับสนุน เนื่องจากผลการเลือกตั้งครั้งนี้สูสีกันมาก การที่ Biden เลือกสนับสนุนพลังงานสะอาดและทำร้ายอุตสาหกรรมถ่านหินหรือน้ำมัน ย่อมทำให้แรงงานจำนวนมากต้องตกงาน (เลือกตั้งครั้งหน้าเขาไม่เอา Democrat แน่ !) เราจึงมองว่า Biden จะสนับสนุนพลังงานสะอาดจริงแต่ไม่เร่งให้มันเกิดขึ้นเร็ว
ประเด็นต่อมาคือนโยบายระยะสั้นที่ Biden พูดมาตลอดว่าเขาจะ Lockdown ครั้งใหญ่เพื่อลดการระบาดของโควิด เรื่องนี้ต้องกระทบหุ้นกลุ่มร้านอาหาร โรงแรม และสายการบิน (แต่อาจมีเงินช่วยเหลือก้อนโตมาอีกรอบ กลายเป็นผลดีสำหรับบริษัทที่กำลังจะล้ม)
หุ้นนอกสหรัฐ โดยเฉพาะยุโรป คือกลุ่มที่ยิ้มกว้างที่สุด
เนื่องจาก Biden มองว่ากลุ่ม EU คือพันธมิตรที่สำคัญ (แตกต่างจาก Trump สิ้นเชิง) หนุนให้ความสัมพันธ์สหรัฐ-ยุโรป ฟิ้นฟูอย่างรวดเร็ว ภาษีหลายรายการที่บังคับใช้ในยุค Trump จะถูกยกเลิก เป็นปัจจัยบวกให้แบรนด์รถยนต์อย่าง BMW (ETR: BMW) หรือ Mercedes-Benz (ETR: DAI) และลดความขัดแย้งกับผู้ผลิตเครื่องบิน Airbus เช่นกัน
การค้ากับประเทศจีนคือไฮไลท์ที่คนกำลังติดตามว่า Biden จะเอายังไงกันแน่ !
นักวิเคราะห์เกือบทุกสำนักและผมเองมองเหมือนกันคือ Biden จะไม่ได้ใจดีกับจีน แต่ที่ต่างจาก Trump คือ ต่อจากนี้สหรัฐจะมากดดันจีนแบบแทคทีมมา (สหรัฐ, ยุโรป, ญี่ปุ่น)
ทางด้านนโยบายแบนบริษัทจีนอาจเปลี่ยนเป็นบังคับให้ซื้อของสหรัฐเยอะขึ้น เพื่อจะได้ไม่โดนแบน จึงมีโอกาสที่ SMIC และ Huawei รวมถึงบริษัทชิปจีนอีก 100 เจ้าจะได้ปลดแบน (แต่เรื่องนี้เดายากมาก เพราะสุดท้ายแล้วการเมืองสหรัฐไม่อยากให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีแข่ง ดังนั้นอาจแบนต่อ)
ในการลงทุนต่างประเทศ ยังมีหุ้นอีกมากที่ไม่ถูกกระทบจากผลการเลือกตั้งครั้งนี้เลย ลองสมัคร Supporter ของเพจเราแล้วคุณจะรู้จักหุ้นดีๆ อีกมาก !!! ตัวอย่างลองดูได้จากโพสต์นี้ครับ (https://www.facebook.com/bottomlinerglobal/posts/3979657032049401)
เกร็ดความรู้: คนจำนวนมากเลือก Trump (ทั้งๆที่ไม่ได้ชอบ Trump) แต่ชอบแนวทางของพรรค Republican ด้าน Small Government และ Low Taxes คือการออกแบบรัฐไม่ให้ไปวุ่นวายกับชีวิตประชาชนมาก รวมถึงไม่ไปเก็บภาษีแพงๆ ที่ประชาชนมองไม่ต่างจากการไปปล้นเงินในกระเป๋า
BottomLiner – บทสรุปการลงทุน