Luminar Technologies บริษัทผู้ผลิต Lidar คุณภาพสูงทั้ง Hardware และ Software เพื่อรถยนต์ไร้คนขับโดยเฉพาะ Lidar ของ Luminar ถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีความโดดเด่นกว่าคู่แข่งทั้งในเรื่องของระยะการมองเห็นได้ไกลและการเลือกใช้ความยาวคลื่นที่ใหม่กว่า
.
Lidar (Light Detection And Ranging) คือเทคโนโลยีที่ใช้ความสามารถของแสงเพื่อสร้างภาพสามมิติ ซึ่งถูกนำมาใช้ในหุ่นยนต์ และรถยนต์ไร้คนขับ เพื่อให้รถยนต์ไร้คนขับสามารถตัดสินใจในแต่ละสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำขึ้น
.
Luminar ผลิต Lidar ชนิดที่เรียกว่า Mechanical Lidar ซึ่งเป็นรุ่นใหม่จากแบบเดิมที่ใช้กัน Lidar มักใช้เพื่อการสำรวจในยุคก่อน โดยใช้หลักการของเเสงเพื่อสะท้อนหาซากวัตถุที่อยู่ใต้ดิน เพื่อทำการค้นหาสิ่งของทางโบราณคดี ปัจจุบันได้มีการประยุกต์ Lidar มาใช้ในทางรถยนต์ไร้คนขับมากพอสมควร
.
Lidar เปรียบเสมือนดวงตาของรถยนต์ไร้คนขับ ปัจจุบัน Autonomous Car หรือรถยนต์ไร้คนขับใช้เพียงแค่ Sensor Radar และกล้องเท่านั้น โดยผ่านการประมวลผลจาก AI ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับแบบ Fully Autonomous(ไม่ต้องใช้คนขับ)
.
ปัญหาของกล้องทั่วไปที่ใช้ในรถยนต์คือเรื่องของสะท้อนที่อาจทำให้เกิดความสับสนของ AI ว่าเป็นเงาที่สะท้อนมาจากรถหรือวัตถุจริงๆกันแน่
ส่วนต่อมาคือปัญหาของ Radar เนื่องจากใช้การสะท้อนคลื่นซึ่งอยู่ในรูปแบบ 2 มิติ ทำให้วัตถุที่อยู่ด้านหลังสิ่งกีดขวางอาจไม่ได้รับการตรวจจับ อย่างเช่นมีแมวอยู่ด้านหลังต้นไม้ ซึ่งโอกาสที่จะวิ่งลงมาบนถนนมีสูง และอาจเกิดอันตรายจากกรณีที่ Radar ตรวจจับไม่เจอได้ แต่ถ้าหากใช้ Lidar เข้ามาช่วยจะทำให้มองเห็นแป็นระบบสามมิติซึ่งสามารถเข้าถึงความสามารถและการมองเห็นที่ครอบคลุมกว่า
.
ความโดดเด่นของ Lidar ของ Luminar คือใช้เทคโนโลยีที่ความความยาวคลื่น 1550 นาโนเมตร ซึ่งเป็นความยาวคลื่นที่มีความปลอดภัยต่อดวงตามากกว่า 905 นาโนเมตร ปัญหาของ 1550 นาโนเมตร ต้องแลกมาด้วยการใช้พลังงานที่สูงกว่า ดังนั้นจึงต้องใช้ InGaAs (ทำไมต้องใช้ GaAs มีบอกในคอร์ส AI Chip อัจฉริยะที่ skillane แล้วนะ) เพื่อเป็นตัว Detector อาจทำให้มี Cost ที่สูงขึ้น
.
ระยะในการใช้งานของ Lidar ที่ Autonomy ต้องการอย่างน้อยถูกกำหนดให้อยู่ที่ 200 เมตร ซึ่ง Lidar ของ Luminar ก็ทำได้เกินกว่านั้น(อยู่ที่ 250 เมตร)
.
ปัญหาของ Lidar คือเรื่องของราคา สมัยก่อน Lidar 1 ตัวจะมีราคาประมาณ 14,000 ดอลลาร์ ถือว่าแพงมากและเป็นที่ถกเถียงกันว่าด้วยราคาขนาดนั้นไม่ควรจะนำมาใช้ในรถยนต์ แต่ปัญหานี้ก็ได้ค่อยๆถูกแก้ไขมาเรื่อยๆ ราคาล่าสุดที่ Luminar ได้เตรียมนำออกมาขายคือตัวละประมาณ 1,000 ดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งถือว่าราคาลดลงอย่างมหาศาล ทำให้หลายบริษัทให้ความสนใจและอยากจะนำ Lidar มาใช้ในรถยนต์ไร้คนขับแล้ว
.
(ยกเว้น Tesla นะ Elon บอกไม่จำเป็นเพราะเทคโนโลยี AI เขาเทพกว่าคู่แข่ง และได้ชี้จุดอ่อน lidar สวนคืนมาเช่น แยกไม่ออกหรอกว่า กล่อง หรือ กันชนถนน หรือกระดูกงู แต่ด้วยระบบกล้อง ก็มีจุดอ่อน เพราะไม่รู้ระยะ จึงมองลายสกรีนหรือผ้าคลุมรถ ต่างๆ เป็นถนนท้องฟ้า วิ่งเข้าไปใส่ได้เลย ปัญหาเหล่านี้ก็ต้องค่อยๆแก้กันทั้งสองฝ่าย)
.
ปัจจุบัน Luminar เป็น Partner กับบริษัทรถยนต์หลายรายโดยสองรายหลักที่มีข่าวอย่างชัดเจนนั่นคือ Volvo ที่เตรียมผลิตรถยนต์ที่ใช้ Lidar ของ Luminar ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2022 นี้ และอีกบริษัทคือ Daimler Truck บริษัทผลิตรถบรรทุกชื่อดังในสหรัฐที่มี Market Share สูงถึง 40%
.
คาดการณ์รายได้ของ Luminar ปี 2025 จะสูงถึง 837 ล้านดอลลาร์
.
โดยทั่วไปการประมาณรายได้ของบริษัทที่ทำธุรกิจเหล่านี้ค่อนข้างมีความน่าเชื่อถือเนื่องจากจะคาดการณ์จาก Contract ที่ได้เซ็นเอาไว้ล่วงหน้า ซื้อส่วนใหญ่จะเซ็นเป็นระยะเวลาหลายปี เป้าหมาย Order Book ของบริษัทอยู่ที่ 6 หมื่นล้านดอลลลาร์ และคาดว่าจะมี EBITDA Margin มากกว่า 50% ในปี 2030
.
หากจะคาดเดารายได้ ในตอนนี้ ก็คงจะไวไปหน่อย การติดตาม partnership และ contract ต่างๆเป็นเรื่องสำคัญ แต่หากคิดในแง่ความเป็นไปได้นอกเหนือจากเทคโนโลยี
.
ด้วยความดังและพลังเงินทุนในยุคนี้ บริษัทได้เลือกหนทางเดินชีวิต โดยการผลิต ASIC ของตัวเองเลย และจะกดต้นทุนอุปกรณ์และตั้งเป้าขาย Lidar ให้เหลือเพียงชุดละ 250 ดอลลาร์ให้ได้
.
Level 4 – 5 Autonomous car คาดจะใช้ 3 – 4 Lidar ต่อ 1 คัน คูณเลขดูก็จะเป็นต้นทุนสำหรับค่ายรถยนต์ เพิ่มไป 1,000 ดอลลาร์ ก็ดูไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรนัก scale ได้สบายๆ
.
ความน่าสนใจอีกเรื่องของ Luminar คือ Austin Russell ผู้ก่อตั้งบริษัทในวัยเพียง 17 ปี Austin ได้รับขนานนามว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ เขาสามารถจำตารางธาตุได้ตั้งแต่ 2 ขวบ อายุ 11 เปลี่ยนเครื่องเกม Nintendo Ds ให้กลายเป็น Smartphone และเริ่มศึกษาเทคโนโลยี Lidar ตอนอายุ 15 ซึ่ง Austin ใช้เวลาเพียง 2 ปีเท่านั้นก็สามารถก่อตั้งบริษัท Luminar Technologies และนำเข้าตลาดเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา จนกลายเป็นมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินมากกว่า 30,000 ล้านบาท ด้วยอายุเพียงแค่ 25 ปีเท่านั้น!!
.
Autonomous Car ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีเพื่อพัฒนาในหลายองค์ประกอบทั้งเรื่องของชิพประมวลผล กล้อง Radar ซึ่ง Lidar ก็อาจจะเป็นส่วนสำคัญในรถยนต์ไร้คนขับในอนาคตหรืออาจไม่จำเป็นแบบที่ Elon บอกก็ได้ และยังต้องดูว่าปัญหาเรื่องการใช้งานในสภาพอากาศที่แย่ รวมถึงราคาจะเหมาะสมกับการนำมาใช้ในรถยนต์ไร้คนขับอยู่หรือไม่
.
BottomLiner