Shale Oil พลังมังกรที่ยังหลับไหลอยู่ใต้ดินของจีน
หากเรามองย้อนกลับไป ต้นทุนพลังงานที่ถูก
จะนำมาซึ่งความสามารถในการผลิตที่ดีกว่าของประเทศนั้น ๆ
ในทางตรงข้าม การไม่สามารถควบคุมราคาพลังงานได้ เป็นปัจจัยหนึ่งของการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่นเงินเฟ้อ เงินอ่อนค่ารุนแรงด้วย
รวมถึงเมื่อเกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ ประเทศที่มีเสถียรภาพทางพลังงานจะได้เปรียบเป็นอย่างมาก
ตัวอย่างเช่น
ญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถูกสหรัฐบีบและทำให้ญี่ปุ่นเสียเปรียบในช่วงสงครามครั้งที่ 2 (1941)
หรือ การทำ Oil Embargo ของ OPEC ทำให้สหรัฐและญี่ปุ่น เจ็บปวดจากเงินเฟ้อ และเงินอ่อนค่าอย่างรุนแรงร่วม 10 ปี
ทั้งนี้เพราะในอดีต สหรัฐ ญี่ปุ่น เป็นผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ของโลก แต่กับผลิตเองได้น้อยเมื่อเทียบการบริโภค
เรื่องแบบนี้ก็กำลังเกิดขึ้นกับจีนด้วยเช่นกัน
และหากจีนต้องการขึ้นเป็นมหาอำนาจของโลก นี่คืออีก 1 จิ๊กซอว์ที่ขาดไป !
ในปัจจุบันทุกคนคงทราบดีว่าจีนเป็นโรงงานผลิตอันดับ 1 ของโลก
ซึ่งต้องการใช้น้ำมันถึง 16 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่จีนสามารถผลิตน้ำมันได้เพียง 25 % ของความต้องการหรือวันละ 4 ล้านบาร์เรลเท่านั้น
เปรียบเทียบกับสหรัฐซึ่งบริโภคน้ำมันเป็นอันดับ 1 ของโลกที่ 21 ล้านบาร์เรล แต่ผลิตเองได้กว่า 60% ที่ประมาณ 13 ล้านบาร์เรล ยังห่างไกลอีกมาก
จากเดิมที่สหรัฐโดนโจมตีด้วย Oil Embargo จากตะวันออกกลาง ก้าวมาสู่การเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกได้จากการเพิ่มประสิทธิภาพในการขุด Shale Oil
ซึ่งสหรัฐเป็นเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่สามารถขุด Shale Oil มาใช้ได้ในราคาต้นทุนที่ถูกกว่าทุกชาติบนโลก จากการพัฒนาเทคโนโลยีการขุดที่เรียกว่า Hydraulic fracturing ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ Advance มาก ๆ และผูกขาดโดยสหรัฐ
(ดังนั้นการทำ Oil Embargo กับสหรัฐตอนนี้จึงยากมาก และทำให้ประเทศตะวันออกกลางมีบทบาทน้อยลงไปมาก)
ขอกลับมาที่จีนบ้าง เพราะถ้าพูดเรื่อง Shale Oil ของสหรัฐแบบเต็ม ๆ คงได้อีก 1 บทความ
จีนมี Shale Oil เป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองเพียงแค่ รัสเซียและ สหรัฐเท่านั้น
แต่จีนกลับสามารถขุดมาใช้ได้น้อยมาก เพราะขุดมาได้ในต้นทุนที่สูงมาก ๆ เนื่องจากเทคโนโลยีของจีนในด้านนี้ยังห่างชั้นจากสหรัฐมาก
แต่ต่อให้จีนจะได้เทคโนโลยีเหมือนสหรัฐมาเป๊ะ ๆ มาใช้ ก็ยังไม่สามารถทำให้ต้นทุน Shale Oil ต่ำได้เท่าสหรัฐอยู่ดี
เนื่องจาก บริเวณที่มี Shale Oil ของจีนส่วนใหญ่อยู่ในภูมิประเทศที่เป็นภูเขา ซึ่งทำให้การขุดเจาะยากกว่ามาก รวมถึง การขุด Shale Oil นั้นจำเป็นต้องใช้น้ำจำนวนมาก จึงต้องมีการลงทุนสร้างระบบส่งน้ำขึ้นไปยังบริเวณขุดด้วย
ซึ่งแน่นอนว่าจีนก็รู้เรื่องความสำคัญของ Shale Oil ใต้ดินของตนเป็นอย่างดี
ปัจจุบันจีนยังเป็นประเทศที่ให้ทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีในการขุดและสำรวจ Shale Oil มากที่สุดในโลก
แต่ในขณะเดียวกันก็มีการส่งเสริมพลังงานสะอาดเช่น Solar Cell และ พลังงานลม คู่ไปด้วย เพื่อทดแทนการพึ่งพาน้ำมันและถ่านหิน
ในอนาคตซึ่งไม่รู้อีกนานเท่าไหร่ ถ้าจีนสามารถคิดค้นเทคโนโลยีที่สามารถทำให้การขุด Shale Oil ในจีนมีต้นทุนที่ถูกลงได้มาก ๆ ก็อาจเป็นเหมือนการปลุกมังกรที่หลับอยู่ใต้ดินของจีนให้ตื่นขึ้นมา ทำให้เสถียรภาพทางพลังงานและศักยภาพในด้านต่าง ๆ ของจีนนั้นสูงขึ้นมาก ๆ
BottomLiner
=====
ไม่อยากพลาดสาระเนื้อหาในการลงทุนต่างประเทศ อย่าลืมติดตามเรา
เพราะตอนนี้โซเชียลต่าง ๆ ถูกปิดการเข้าถึงมาก ๆ
ไม่งั้นอาจพลาดโพสต์ดี ๆ จากเรา
https://linktr.ee/bottomliner